ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

Archive for พฤษภาคม 2007

Windows Live Writer

leave a comment »

image

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเวลาผมเขียนบล็อก ผมจะไม่เข้าไปเขียนจากหน้าเว็บของบริการนั้น ๆ โดยตรง
ผมจะเขียนผ่าน Windows Live Writer ซึ่งตั้งแต่ beta 1 มันก็เป็น Blog Client ที่ดีที่สุดใน
ดวงใจของผม หลังจากที่โปรแกรมตัวนี้เงียบหายไปนาน วันนี้ทีมงานได้ประกาศตัว beta 2 ซึ่งสนับ
สนุนฟังก์ชันต่าง ๆ ของทั้ง blogger และ WordPress ที่ผมใช้อยู่ ได้ลองใช้เมื่อกี้นี้เอง เอ่อ ไม่รู้
จะพูดอย่างไรดีนะครับ รู้แต่ว่ามันดีเกินพอสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไปจริง ๆ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 31, 2007 at 2:17 am

เขียนใน ส่วนตัว, software

ผลฟุตบอลสเปน

with one comment

David Beckham

หลังจากที่ลีกอังกฤษ เยอรมัน จบลงไปแล้วแบบกึ่งสมหวัง ก็ได้มาลุ้นกับ
Real Madrid มาเชียร์ทีมนี้ก็เพราะคนข้าง ๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น
ชอบเจ้าพ่อลูกนิ่งเป็นการส่วนตัวตั้งแต่สมัยอยู่ผีแดง ถ้าเรียลได้แชมป์ก็
น่ายินดีกับเบ็คด้วยที่จะได้ประสบความสำเร็จในสเปนก่อนไปขุดทองที่
อเมริกา วันนี้ดูหนังชีวิตระหว่าง Recreativo de Huelva ทีมกลาง
ตารางกับเรียลแมดริด ครึ่งหลังมันมากครับ และก็เกือบจะหมดลุ้นเพราะ
ดันมาเสมอกันสอง ๆ ในช่วงเกือบหมดเวลาในบ้านของ Recreativo
ก็ได้ Gonzalo higuain ซุปเปอร์ซับหลายนัด ถูกเปลี่ยนลงในนาทีที่ 89 นั่นหมายความว่า
เจ้านี้จะได้เล่นไม่ถึงห้านาที และก็เป็นตัวนำโชคจริง ๆ เพราะพี่แกลากตั้งแต่เกือบกลางสนาม ก่อน
ให้เบ็คและเบ็คก็ผ่านให้อีกคนไม่รู้ใคร ก่อนที่จะตวัดส่งให้โรเบอร์โต้ คาร์ลอส ยิงเข้าไปในนาทีที่
สองของการต่อเวลา และทีมเรียลมาดริดทั้งทีมก็ดีใจกันเหมือนได้แชมป์ ณ เวลาที่เขียนนี้เรียล
ก็ยังนำที่สองอยู่สองแต้มหล่ะ เหลืออีกสามนัดแค่นั้นกำลังใจมาเต็มสูบ ส่งแรงใจเชียร์เบ็คด้วย
เพราะมีแกทุ่มเท เกมส์นี้ครึ่งหลังวางบอลยาวงาม ๆ ให้เพื่อนหลายครั้งด้วย

Written by tsvhh

พฤษภาคม 31, 2007 at 2:09 am

เขียนใน blog, Manutd

เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 3 สนามบิน

with 4 comments

อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่

  1. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 1 ก่อนออกเดินทาง
  2. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 2 กระเป๋า

และแล้ววันเดินทางก็มาถึง พวกเราต้องตืนแต่เช้าก่อนพระอาทิตย์ฤดูร้อนจะขึ้น นั่นคือประมาณตีสี่
ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง รวมทั้งเจ้าน้องนีรที่หลับตามหน้าที่ หลังจากเตรียมตัวเสร็จก็ออกเดิน
ทางขึ้นรถบัส ลงรถไฟ ลงรถไฟอีก แล้วก็ขึ้นรถบัส ไปถึงสนามบินโดยสวัสดิภาพ การเช็คอินไม่มี
ปัญหาอะไร ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ถูกเช็คผ่านตู้ที่มีเจ้าหน้าที่คอยบริการ ซึ่งทำได้ถึงแม้ว่าเราจะต้อง
การเอารถเข็นเด็กลงท้องเครื่องบินก็ตาม เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอย่างดี ภาพเดิมสมัยที่ต้อง
กลับเมืองไทยกันสามคนพ่อแม่ลูก โดยลูกชายวัยซนสนใจแต่การวิจัยสิ่งรอบข้างก็เกิดขึ้นอีก คราว
นี้เราเตรียมตัวดี โดยรีบไปที่ประตูสู่เครื่องบินให้เร็วที่สุดก่อนที่เจ้าตัวน้อยจะมีแรงลุกขึ้นมา การ
ตรวจของขึ้นเครื่องบินยามนี้ต้องบอกว่าเคร่งมาก ถึงแม้เราจะเตรียมตัวอย่างดีแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยัง
ตรวจอย่างละเอียด มีการส่งกลับถุงนมมาตรวจสอบสิ่งที่อยู่ภายในเนื่องจากเอ็กเรย์แล้วไม่เห็น
อะไรนอกจากถุง กระเป๋าถูกค้นควักโดยเจ้าหน้าที่อย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย กว่าจะผ่านได้ก็
หลายนาทีอยู่

การรอขึ้นเครื่องประมาณหนึ่งชั่วโมงสร้าง
ความน่าเบื่อพอประมาณ แต่โชคดีที่ที่พัก
ผู้โดยสารของสนามบินในเยอรมันดีมาก ๆ
(ไว้จะบอกทีหลังว่าไปเจออะไรแย่ ๆ ที่ปารีส
บ้าง)  ผู้โดยสารไม่ต้องนั่งสับสนว่าจะไปรอ
ที่ไหน ป้ายบอกเที่ยวบินก็ชัดเจน เมื่อขึ้น
เครื่องเราก็ฝากรถเข็นไว้กับเจ้าหน้าที่ที่
หน้าประตูเครื่องบิน แล้วก็เข้าประจำที่นั่ง
สิ่งที่แตกต่างจากการเดินทางกลับเมืองไทย
คราวที่แล้วคือ น้องนีรเสียค่าโดยสารเต็มก็
เลยมีที่นั่งเฉพาะ และเราก็ได้นั่งที่นั่งแถวสามคนทำให้จะขยับเขยื้อน ลุกสนุกนั่งสบาย จะไปไหนก็
ไม่ต้องนัดแนะกัน และคอยรบกวนคนที่นั่งข้าง ๆ ตลอดเที่ยวบิน และทันทีที่นั่งเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่
ก็เอาของเล่นมาไว้ให้เราหลอกล่อน้องนีร ซึ่งจำเป็นมากเพราะเด็กวัยซนจะต้องนั่งอยู่ในที่ ๆ กำหนด
ชั่วโมงกว่า ๆ

อีกอย่างหนึ่งที่ดีกว่าสำหรับสายการบินราคาไม่ถูกนักอย่าง Lufthansa ก็คือมีอาหารว่างที่เราจงใจ
เรียกว่าอาหารเช้าบริการนอกเหนือจากเครื่องดื่มตามปกติ คือมีขนมปังแข็ง ๆ ประกบแฮม เสิร์ฟพร้อม
ช็อกโกแล็ตแท่งในซองพลาสติกพอกิน มันก็พอที่จะลดความหิวลงได้บ้าง เจ้าน้องนีรปฏิเสธของกิน
บางอย่าง ทำให้พ่อเขาต้องรับของกินเหล่านั้นมาด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง

สนามบิน Charles de Gaulle สนามบินนานาชาติที่ใหญ่อันดับหนึ่งในยุโรปในแง่ของจำนวน
เที่ยวบิน ซึ่งนอกจากจะใหญ่ เก่า แล้วยังโทรมอีกด้วย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สร้างและออกแบบ
ได้ประทับใจสำหรับผู้ที่มาเยือนอย่างยิ่ง กล่าวคือถ้าเลือกได้ก็ไม่ขอมาอีก แต่ถ้าพูดถึงความงงแล้วก็ยัง
ดีกว่าสนามบิน Frankfurt แห่งชาติเยอรมันนิดหน่อย ความประทับใจแรกก็คือไม่มีเจ้าหน้าที่เอารถเข็น
เด็กมาให้ที่ประตูทางออกเครื่องบินแต่อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ ๆ สนามบินไหนเขาก็ทำกัน ด้วยความสงสัยเรา
ก็เลยถามเจ้าหน้าที่ว่ารถเข็นเด็กเราอยู่ไหน  ทั้งสองเจ้าหน้าที่ทำหน้างง ๆ พร้อมชี้ไปทางโน้นแบบ
ส่งเดช ไม่มีทางเลือกเราก็เดินไปตามทางที่มี
ป้ายบอกทางไปรับสัมภาระ ผ่านทางเลื่อนที่ต้อง
ลงแล้วก็ขึ้นซึ่งแทนที่จะทำให้เป็นระนาบเดียวกัน
(เราจะพบทางเดินที่มีลักษณะแบบนี้ได้อีกในทุก ๆ
ที่ เช่นทางเดินในชานชลารถไฟใต้ดิน)  เราผ่าน
บรรไดเลื่อนที่เป็นทางราบที่น่าตื่นตาตื่นใจ และ
มาถึงจุดรับของที่ยืนยันว่าเที่ยวบินของเราจะส่ง
ของมาที่นี่ กว่ากระเป๋าของเที่ยวบินที่เรานั่งจะมา
ถึง ก็กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ซึ่งนับว่าผิดแผน
อย่างมาก โดยแผนแล้วเราต้องการจะออกจาก
สนามบินในทันทีที่มาถึง ไม่งั้นก็ไม่ต้องแบก
กระเป๋าขึ้นเครื่องให้เหนื่อยทำไม และแล้วเวลาที่น่าปิติก็มาถึง สัมภาระจากเครื่องบินของเราก็มาถึง ผู้คน
รอบข้างเริ่มทยอยรับกระเป๋าไปทีละคนสองคน และเวลาที่น่าตกใจก็มาถึง สายพานหยุดแล้วแต่ไม่มี
รถเข็นของน้องนีร เราสอบถามกับเจ้าหน้าที่ด้วยภาษามือปนภาษาที่เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจ เขาชี้ที่ป้าย
บอกว่าการลำเลียงของมานั้นยังไม่ครบถ้วนให้อดใจรออีกหน่อย ก็ยังดีที่มีคุณยายแก่ ๆ อีกคนยังคงยืน
รอของเป็นเพื่อนเราอยู่ ทำให้เราไม่ต้องตัดสินใจเด็ดเดี่ยวไปหาของยังสำนักงาน สักพักเจ้าหน้าที่คนนั้นก็
หายอีกไปปล่อยให้เราสองคนพ่อแม่กังวลใจยิ่งขึ้น ถึงเวลานี้เจ้าน้องนีรก็เริ่มรู้ตัวว่าเขาอยู่ในระเบียบนาน
เกินไปแล้ว กระเป๋าเดินทางที่หนักราว ๆ สิบเอ็ดกิโลก็เป็นเหยื่อรายแรก และเมื่อรออีกประมาณสิบนาที
เจ้าหน้าที่คนเดินกลับมาพร้อมกับรถเข็นของน้องนีรและรถเข็นของคุณยาย จะด้วยเหตุและผลใด ๆ ก็ตาม
เราและคุณยายก็ยังอดดีใจกับการได้ของรักกลับคืนมาไม่ได้

ตามแผนพ่อเราควรจะนั่งรถ RER ไปยังโรงแรมที่พัก แต่แม่น้องนีรยืนยันว่าอย่างไรก็ต้องมีรถบัสไปยัง
ใจกลางเมืองปารีสแน่ ๆ และค่าโดยสารจะต้องถูกกว่า (ค่ารถไฟ RER จากสนามบินไปใจกลางปารีส
ราคาประมาณ 8 ยูโรต่อเที่ยวต่อคน) หลังจากที่สอบถามกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วว่าเราสามารถนั่ง
รถบัสสาย 350 ไปถึง Porte de La Chapelle (อ่านว่า พอร์ต เดอ ลา ชาแพล) ได้ เราก็เดินผ่าน
ทางเดินในสนามบินที่ไม่วกแต่วนไปยังทางออก
ที่ยี่สิบ แล้วก็หาทางออกไปท่ารถบัสอีกหลาย
สิบนาที เมื่อไปถึงป้ายรถบัสซึ่งก็เหมือนกับที่
เยอรมันคือมีป้ายบอกเวลาที่ชัดเจน ทั้งวันธรรมดา
วันหยุด แต่เราก็พลาดจนได้ เพราะวันที่เราไปถึง
เป็นเช้าวันเสาร์ ทั้ง ๆ ที่เราสามารถอ่านป้ายที่
เราจะไปลงได้ถูกต้อง แต่เราไม่รู้ว่าวันเสาร์ใน
ภาษาฝรั่งเศสเขียนว่าอย่างไร และในสภาพที่
หนาวเหน็บอย่างคาดไม่ถึง รวมทั้งมีฝนพรำ ๆ  ก็
ทำให้การหาคำตอบของคำถามที่ไม่ได้เตรียมคำ
ตอบไว้ของสามคนพ่อแม่ลูกไม่สนุกเอาซะเลย
และในขณะที่สาระวนกับการหาคำตอบอยู่นั้น ก็มีหนุ่มใหญ่ชาวฝรั่งเศสข้าง ๆ ยืนเก้ ๆ กัง ๆ น่าสงสัย
อยู่ที่ป้ายรถเมล์เดียวกัน

อ่านต่อถัดไปได้ที่

  1. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 4 รถเมล์กับโรงแรม

Written by tsvhh

พฤษภาคม 25, 2007 at 10:58 am

เขียนใน ปาีรีส, เที่ยว

บางสิ่งที่คุณอาจจะยังไม่รู้

leave a comment »

Manutd

LEAGUE CHAMPIONS
1907-08, 1910-11, 1951-52, 1955-56, 1956-57, 1964-65, 1966-67,
1992-93, 1993-94, 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-00, 2000-01,
2002-03, 2006-07

CHARITY/COMMUNITY SHIELD WINNERS
1908, 1911, 1952, 1956, 1957, 1965, 1967, 1977, 1983, 1990, 1993, 1994, 1996, 1997, 2003

F.A. CUP WINNERS
1909, 1948, 1963, 1977, 1983, 1985, 1990, 1994, 1996, 1999, 2004

LEAGUE CUP WINNERS
1992, 2006

Liverpool

LEAGUE CHAMPIONS
1900-01, 1905-06, 1921-22, 1922-23, 1946-47, 1963-64, 1965-66,
1972-73, 1975-76, 1976-77, 1978-79, 1979-80, 1981-82, 1982-83,
1983-84, 1985-86, 1987-88, 1989-90

CHARITY/COMMUNITY SHIELD WINNERS
1964, 1965, 1966, 1974, 1976, 1977, 1979, 1980, 1982, 1986, 1988, 1989, 1990, 2001, 2006

F.A. CUP WINNERS
1965, 1974, 1986, 1989, 1992, 2001, 2006

LEAGUE CUP WINNERS
1981, 1982, 1983, 1984, 1995, 2001, 2003

Arsenal

LEAGUE CHAMPIONS
1930-31, 1932-33, 1933-34, 1934-35, 1937-38, 1947-48, 1952-53,
1970-71, 1988-89, 1990-91, 1997-98, 2001-02, 2003-04

CHARITY/COMMUNITY SHIELD WINNERS
1930, 1931, 1933, 1934, 1938, 1948, 1953, 1991, 1998, 1999, 2002, 2004

F.A. CUP WINNERS
1930, 1936, 1950, 1971, 1979, 1993, 1998, 2002, 2003, 2005

LEAGUE CUP WINNERS
1987, 1993

Chelsea

LEAGUE CHAMPIONS
1954-55, 2004-05, 2005-06

CHARITY/COMMUNITY SHIELD WINNERS
1955, 2000, 2005

F.A. CUP WINNERS
1970, 1997, 2000, 2007

LEAGUE CUP WINNERS
1965, 1998, 2005, 2007

Written by tsvhh

พฤษภาคม 22, 2007 at 10:38 pm

เขียนใน ขำ, สังคม, blog

เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 2 กระเป๋า

with 2 comments

อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่

  1. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 1 ก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกเดินทาง ปารีสเป็นมหานครที่มิได้อยู่ในใจ
เลยสักนิด คิดว่าก็คงคล้าย ๆ กันกับที่อื่น มีดีตรงนี้
เป็นแหล่งเครื่องสำอางชั้นดีราคาถูก และกระเป๋าชื่อ
ดัง

ผมเริ่มเห็นถึงปัญหาของเจ้าตัวน้อย ตั้งแต่คราวที่ไป
เยี่ยมเพื่อนสนิทที่ Mannheim และมีโอกาสได้แวะ
ไปเที่ยวปราสาทเก่าที่ Heidelberg ก่อนกลับบ้าน
เจ้าตัวน้อยวัยสอดรู้สอดเห็นที่นอกจากจะสอดรู้สอด
เห็นไปซะทุกเรื่องแล้วเที่ยวนี้ยังถือโอกาสป่วย ทำให้
กำลังในการต่อต้านความยับยั้งชั่งใจน้อยลงไปถนัด
ตา ทุก ๆ ครั้งที่กล้องคู่ใจที่ถูกใช้มาแล้วสามปีถูกดึงออกจากกระเป๋ากล้อง เจ้าตัวน้อยเป็นต้องร้องของมี
ส่วนร่วมในการเป็นผู้บันทึกภาพ หาได้เป็นผู้ถูกบันทึกอย่างที่เคยเป็นมา นี่คือปัญหาแรกคือโอกาสถ่ายรูป

จะน้อยลงไป ถ้ายังคงใช้กล้องตัวเดียว กล้องโซนี P10 ที่ทนยังกะแรดและถ่ายภาพยังสวยเมื่อแสงแดดเป็น
ใจ มันมีแท่งหน่วยความจำขนาด 256 MB และ 32 MB โดยปกติจะถูกตั้งให้ถ่ายที่สามล้านพิกเซล ถ่าย
อย่างเก่งก็ได้แค่สองวัน การไปเที่ยวห้าวันห้าคืนจึงต้องหาอุปกรณ์เสริม แต่ด้วยความที่ผมเห็นว่าราคาการ์ด
หน่วยความจำชนิดอื่นขนาด 2 GB หาซื้อได้ทั่วไปแค่ 16-20 ยูโรเท่านั้น การลงทุนเพื่อซื้อแท่งหน่วย
ความจำเฉพาะยี่ห้อของโซนี ดูจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย นี่คือปัญหาที่สอง ผมได้ใช้เวลาที่
เหลือหนึ่งเดือน ทุก ๆ ครึ่งวันในการสืบเสาะหากล้องขนาดเล็กที่คุ้มค่า และราคาต้องไม่เกินสามร้อยยูโร ที่
สำคัญมันต้องใช้ SD-card

และระยะเวลาหนึ่งเดือนกับเงินสามร้อยยูโรก็ไปจบลงที่ canon IXUS 800 กล้องชนะเลิศของปีที่แล้ว
ซึ่งกว่าจะได้ก็ปาเข้าไปวันพุธของอาทิตย์เดียวกับวันเสาร์ที่ต้องออกเดินทางแล้ว การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้
นอกออกจะคุ้มค่าในแง่หนึ่งและไม่คุ้มค่าในแง่หนึ่ง กล่าวคือเรามีกล้องที่ไม่ล้าสมัยนัก และคุณภาพดีกว่า
กล้องตัวเก่า มีหน่วยความจำเหลือเฟือเพียงพอที่จะถ่ายรูปเที่ยวทั้งห้าวันด้วยความละเอียด 6 ล้านพิกเซล
แต่เราต้องสูญเสียกล้องตัวเก่าให้ไอ้ตัวเล็กไปแบบถาวร รัปประกันได้ว่าไม่เต็มใจ เป็นอันว่าสามร้อยยูโร

แรกนี้หมดไปกับเรื่องกล้อง กำลังคิดอยู่ว่าจะคิดเป็นงบประเมิน
ด้วยหรือไม่

ภรรยาได้ติดต่อกับเพื่อนที่ฝรั่งเศสเพื่อนัดแนะจุดนัดพบ และได้
ข้อมูลว่าอาหารในปารีสนั้นแพงมาก ไม่ควรที่จะหากินทุกวัน
เน้นว่าทุกวันไม่ใช่ทุกมื้อ ข้อมูลตรงนี้ก็พอรู้ได้จากราคาที่พักที่
ได้บอกไปตอนที่แล้ว มันไม่รวมอาหารเช้า ถ้าเอาด้วยต้องเพิ่ม
เงิน 7-8 ยูโรต่อหัว ใครจะไปกินมันหล่ะ (อาหารเช้าแบบยุโรป
นั้นมันแค่ขนมปัง เนย แยม ไข่ต้ม แค่กินกันตาย ใครจะไปทนกิน
ตั้งห้าวัน) ซึ่งบทสรุปคือเราไม่กินอาหารเช้าที่โรงแรมจัดให้
พวกเรามีหน้าที่เตรียมหม้อหุงข้าวขนาดเล็กซึ่งได้อนุเคราะห์
จากนักเรียนไทยคนอื่นไปด้วย ส่วนเพื่อนของภรรยาจะเตรียม
ข้าวสารอาหารแห้งไป ส่วนมื้ออื่น ๆ ก็จะซื้อเพิ่มเติมเอา และกะ
ว่าจะกินอาหารต้นตำรับฝรั่งเศสแค่มื้อสองมื้อเท่านั้น

กระเป๋าสี่ใบ ถูกจัดให้พร้อมสำหรับขึ้นเครื่อง (ต้องไม่มีของเหลวเกิน 100 ml แย่ใส่ถุงพลาสติกใส นมเด็ก
เอาไปได้ ของที่ซื้อใน Duty Free เอาขึ้นเครื่องได้ อะไรวะ) ทั้งนี้เพราะเราต้องการประหยัดเวลาจาก
สนามบินไปยังโรงแรมที่พัก กว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ถูกบรรจุไปด้วยสัมภาระของเจ้าตัวเล็ก โดยเรา
ต้องแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน

  1. พ่อจะต้องดูแลเอกสารสำคัญ กล้องถ่ายรูป กระเป๋าลากใบใหญ่ กระเป๋าเป้ใบเล็ก
  2. แม่จะต้องดูแลรถเข็น กระเป๋าลากใบเล็ก กระเป๋าสะพายสำหรับใส่เครื่องใช้ของเจ้าตัวเล็ก
  3. เจ้าตัวเล็กจะต้องดูแลตัวเองให้อยุ่ในความสงบ

เวลาจัดของนั้นสำคัญมาก จากประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายครั้งหลายหน ผมมีหน้าที่แค่เตรียมเสื้อผ้าส่วน
ตัววางไว้ให้ภรรยา และจัดเอกสารกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ทำมากกว่านั้น การจัดกระเป๋าด้วยคน ๆ
เดียวนั้น นอกจากจะสะดวกรวดเร็วแล้ว ยังลดปัญหาเรื่องความสับสน คำถามประเภทเธอเอานั่นใส่หรือยัง
คุณเอาไอ้นั่นใส่หรือยัง จะไม่ค่อยมี นอกจากนั้นการไปเที่ยวเมืองใหญ่คุณต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่านี่
เราไปเมืองใหญ่นะ (จริง ๆ ความคิดนี้ใช้ไม่ค่อยได้กับเมืองใหญ่ ๆ ในยุโรป ไว้ตอนหลังจะบอกว่าทำไม)

เป็นอันว่าตอนนี้ขึ้นต้นด้วยกระเป๋าและจบลงที่กระเป๋า ชื่อตอนก็เลยต้องตั้งเป็นกระเป๋าอย่างเลี่ยงไม่ได้

อ่านตอนถัดไปได้ที่

  1. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 3 สนามบิน

Written by tsvhh

พฤษภาคม 20, 2007 at 1:12 am

Free Registry Cleaner

leave a comment »

หลังจากที่เลิกหา Free Anti-Virus แล้วเพราะใช้ของฟรีจาก AOL ซึ่งได้แนะนำไปแล้วที่
Free Anti-Virus from AOL ซึ่งใช้ทั้งที่บ้านและที่ทำงานเรื่อยมา ปัญหาที่พบมีเพียงเรื่อง
เดียวคือมันจะทำให้เครื่องช้าตอนเริ่มทำงาน เพราะตัวโปรแกรมจะทำการตรวจสอบว่ามีการ
อัฟเกรดโปรแกรมหรือไม่ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีไวรัสตัวใหม่เข้ามากวนใจ หลังจากนั้นเครื่อง
ก็จะทำงานตามปกติ

ผู้ใช้วินโดวส์ยังคงมีสิ่งกวนใจอีกอันหนึ่งนอกจากไวรัส นั่นก็คือเรื่องของ Registry ที่มีผลทำ
ให้การทำงานของเครื่องช้าลง การจะแก้เองก็เสียเวลาและอันตราย ไอ้การที่จะเสียเงินพันกว่า
บาทเพื่อซื้อโปรแกรมที่ไม่ค่อยมีประโยชน์แต่จำเป็นตัวนี้ก็กระไรอยู่ โปรแกรมพวกนี้ของฟรี
ก็หาดียาก บางตัวโฆษณาว่าฟรีแต่พอเอาเข้าจริงเจอข้อผิดพลาดสองร้อย แก้ให้แค่ยี่สิบถ้า
Freeware Windows Optimizationอยากได้เพิ่มก็ต้องซื้อเอา จริง ๆ แล้วผมรู้จัก CCleaner มานานแล้วในฐานะของ
โปรแกรมที่ใช้ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจากเครื่อง พึ่งมารู้ว่ามันลบ Registry ได้
ด้วย (โง่มานาน) พอได้ลองใช้ก็ประทับใจครับ เพราะมัน 100% ฟรีจริง ๆ และ
ยังทำงานอย่างอื่นได้สารพัด ส่วนติดต่อผู้ใช้ก็ง่ายจริง ๆ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมชอบ CCleaner ก็คือผู้พัฒนาใช้แนวคิดของ freeware โดยถ้าผู้ใช้เห็น
ว่าดีอยากสนับสนุนก็บริจาคเงินผ่าน PayPal ได้ ไม่ถึงขั้นต้องเป็นซอฟท์แวร์เสรีก็รักขาดใจ
แล้ว

Written by tsvhh

พฤษภาคม 18, 2007 at 10:42 am

เขียนใน software

เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 1 ก่อนออกเดินทาง

with 5 comments

การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไปมาก่อนนั้น
สิ่งแรก ที่ต้องทำคือหาคู่มือดี ๆ ซักเล่มสองเล่ม หนังสือของ DK ดู
เหมือนจะเป็นเล่มที่ควรจะมีไว้หากนึกอะไรไม่ออก เนื้อหาในหนังสือ
ค่อนข้างละเอียด มีประวัติคร่าว ๆ ของสถานที่ต่าง ๆ ให้ศึกษาพอไว้
ประดับความรู้บ้าง ข้อเสียของตัวหนังสือเล่มนี้คือมันเยอะเกินไป ต้อง
มีเวลาอ่านและศึกษา ดังนั้นจึงไม่ค่อยจะเหมาะสำหรับการอ่านไป
เที่ยวไปเท่าใดนัก แต่การที่ตัวหนังสือมีรูปภาพมากรวมทั้งมีแผนที่
แบบสามมิติให้ดูกันหลง ก็ทำให้ตัวหนังสือมีประโยชน์มาก และแน่
นอนเมื่อคุณถึงปารีส ท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่คุณจะ
พบเห็นได้บ่อย ๆ ก็คือคนถือหนังสือเล่มนี้ จริง ๆ มีหนังสืออีกหลาย
เล่มที่น่าจะมีติดไว้ แต่ด้วยราคาหนังสือในความเห็นแล้วคิดว่าเล่มนี้
ความจะเป็นเล่มที่ต้องมี

ตัวผมวางแผนเดินทางไว้เกือบครึ่งปี โดยในครั้งแรกตั้งใจจะไปกัน
เพียงสามคนพ่อแม่ลูก โรงแรมดี ๆ ใกล้แหล่งคมนาคมจึงเป็นเป้า
หมายแรกที่จะต้องเลือก เริ่มแรกเราพุ่งเป้าไปที่บริษัททัวร์ราคาถูกอย่าง Tchibo ไว้ก่อน เพื่อจะได้
ลดความยุ่งยากในการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม นอกจากนั้นโรงแรมที่มีสัญญากับบริษัทพวกนี้ล้วน
แล้วแต่เป็นระดับสี่ดาวและรวมอาหารเช้าทั้งสิ้น แต่พอเอาเข้าจริงแล้วสิ่งที่บอกไว้ในโฆษณาของ
บริษัทเหล่านี้ ที่บอกว่าเที่ยวสามวัน ห้าวัน กลับกลายเป็นว่าเราจะต้องเดินทางในเย็นวันแรกและ
กลับตอนเช้าของวันสุดท้าย นั่นหมายความว่าคุณซื้อแพ็กเกจสามวันคุณจะมีเวลาเที่ยวแค่วันเดียว
เท่านั้น ใครจะเสียเงินไปกับบริษัทพวกนี้หล่ะ

จากความไม่คุ้มทุนดังกล่าว เราจึงเลื่อนแผนออกไปยาวไปจนถึงฤดูร้อน ช่วงเวลาที่ยุโรปจะมีแสง
อาทิตย์ไปถึงสี่ทุ่ม ทำให้มีเวลาเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ หรือที่นิยมเรียกว่าชะโงกทัวร์ และเป็นโชคดี
ที่ช่วงเวลานั้นเรามีเพื่อนร่วมทางพอดี ประมาณต้นเดือนเมษายนเดือนที่สวยที่สุดของยุโรปก็ได้ถูก
เลือกเป็นช่วงเวลาวางแผนการเดินทาง งบประมาณถูกวางไว้คร่าว ๆ ที่ 1500 ยูโร สำหรับสามคน
สามคืน

โรงแรมเป็นตัวเลือกแรกที่คุณควรจะศึกษาและใช้เวลาตัดสินใจให้มาก เพราะถ้าคุณเลือกผิดนั่นหมาย
ถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะในปารีสจะมีรถอยู่สามประเภทที่คุณนั่งได้คือ รถบัส Metro และรถไฟ
RER ซึ่งรถไฟ RER นั้นจะต้องจ่ายเพิ่มและไม่สะดวกเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามเราไม่มีทางเลือกมาก
นักด้วยข้อจำกัดของวันและเวลา เลือกโรงแรมได้แต่ไม่มีเที่ยวบินราคาถูก มีเที่ยวบินราคาถูกแต่ไม่มี
โรงแรม บางทีได้ห้องราคาถูกแต่แหว่งไปหนึ่งวัน ไอ้วันที่แหว่งก็ดันมีราคาสูงเป็นสองเท่าถ้าอยาก
ได้จริง ๆ บางโรงแรมดีทุกอย่างแต่ให้พักแค่สองคนเป็นต้น เว็บที่พวกเราหาโรงแรมคือเว็บของโรงแรม
เครือ Accor ที่ประกอบไปด้วยโรงแรมหลายระดับ แต่จนแล้วจนรอดก็หาที่ดี ๆ ไม่ได้ ด้วยเงื่อนไข
ต่าง ๆ นา ๆ เช่นจำนวนวัน ราคาโรงแรมต้องอยู่ในเขต Metro เป็นต้น ยิ่งปล่อยให้เวลาล่วงเลยก็
กลายเป็นว่าตั๋วเครื่องบินราคาถูกก็หมด แต่แล้วโชคดีก็เป็นของเราเนื่องจาก SuiteHotel โรงแรม
ระดับสามดาว มีแพ็กเกจพักสี่คืนจ่ายสองคืน นั่นหมายถึงเราจ่ายแค่คืนละ 50 ยูโรเท่านั้น และเราก็วาง
แผนให้เพื่อนอีกคนมาพักด้วยซึ่งจะจ่ายเพิ่มอีกแค่ 10 ยูโรต่อคืนรวมภาษีด้วยก็แค่ 49 ยูโรต่อสี่คืน ซึ่ง
เบ็ดเสร็จพวกเราผู้ใหญ่สามคน เด็กอีกหนึ่ง จ่ายค่าที่พักสี่วันแค่ 240 ยูโร ทั้ง ๆ ที่เป็นโรงแรมที่อยู่
เส้นขอบของใจกลางปารีส

เรื่องต่อมาคือเรื่องตั๋วเครื่องบินราคาถูก เราเลือกสายการบิน Lufthansa ทั้งนี้เพราะมีเครื่องขึ้น
จากฮัมบวร์ก ราคาตั๋วถูกสุดคือ 89 ยูโร ต่อคน แต่ไม่ได้มีราคานี้ทุกเที่ยวบิน จริง ๆ กลายเป็นว่า
วันที่เราจะกลับไม่มีตัวราคาถูก และเนื่องจากเด็กก็ต้องจ่าย ดังนั้นถ้าราคาเพิ่มขึ้นต่อคน 20 ยูโร นั่น
ก็หมายความว่าเราต้องจ่ายเพิ่มเป็น 60 ยูโร ผมจึงออกความคิดว่า งั้นวันสุดท้ายก็เที่ยวให้คุ้มแล้ว
หาโรงแรมใกล้สนานบินที่ราคาถูกพักอีกคืน ด้วยความคิดนี้เราจึงต้องอยู่ปารีสห้าวันห้าคืน ออกจาก
ฮัมบวร์กด้วยเครื่องบินของสายการบิน Lufthansa เวลา 7 โมงเช้าวันเสาร์ และกลับเวลา 9 โมง
เช้าของวันพฤหัสบดี โรงแรมติดสนามบินคือโรงแรม Etap เสียค่าห้อง 49 ยูโร

เป็นอันว่าเราได้วันเวลา เพื่อนร่วมทาง ร่วมเที่ยว เที่ยวบิน โรงแรมที่พัก ที่เหลือเป็นการเตรียมตัวซึ่ง
เรามีเวลาประมาณ 1 เดือน การเที่ยวหนนี้ถือว่าเป็นการเที่ยวที่ไปแล้วกลับแค่สามคนพ่อแม่ลูก ไม่
เพื่อนร่วมทางไปด้วย เราจะมีเพื่อนร่วมเที่ยวก็เมื่อไปถึงที่ปารีสแล้วเท่านั้น

อ่านตอนต่อไปได้ที่

  1. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 2 กระเป๋า

Written by tsvhh

พฤษภาคม 14, 2007 at 6:29 pm

ขอแสดงความยินดีกับ รศ. ดร. เอก ไชยสวัสดิ์

leave a comment »

ขอแสดงความยินดีกับ รศ. ดร. เอก ไชยสวัสดิ์ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งประธานสภาคณบดี คณะ
วิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย

ในฐานะศิษย์ลูกหม้อคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับอาจารย์มาก ๆ คนหนึ่ง คงไม่ขอพูดอะไรมากนอกจากแสดง
ความยินดีครับ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 13, 2007 at 11:45 am

เขียนใน angel, รศ. ดร. เอก

ขอแสดงความยินดีกับ รศ. ดร. เอก ไชยสวัสดิ์

leave a comment »

ขอแสดงความยินดีกับ รศ. ดร. เอก ไชยสวัสดิ์ ในโอกาสที่ได้รับตำแหน่งประธานสภาคณบดี คณะวิศว-
กรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย

ในฐานะศิษย์ลูกหม้อคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับอาจารย์มาก ๆ คนหนึ่ง คงไม่ขอพูดอะไรมากนอกจากแสดง
ความยินดีครับ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 13, 2007 at 1:39 am

เขียนใน สังคม, ส่วนตัว