ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

เที่ยว มิวนิค ซัลสบวร์ก บูดาเปรส เวียนนา กับเจ้าตัวน้อย — ตอนที่ 2 หกชั่วโมงที่ยาวนาน

with one comment

อ่านตอนที่หนึ่งได้ที่

  1. เที่ยว มิวนิค ซัลสบวร์ก บูดาเปรส เวียนนา กับเจ้าตัวน้อย — ตอนที่ 1 เกริ่น

เที่ยวรอบนี้เจ้าหนูนีรก็โตขึ้นใกล้ 5 ขวบเข้าไปทุกที  เรื่องที่เคยคิดว่าน่าจะง่ายขึ้น ก็กลายเป็นยากขึ้นค่าใช้จ่ายเยอะขึ้นเวลาน้อยลง  โชคดีที่คราวนี้เรามีน้องแซนร่วมเดินทางไปด้วย ทำให้มีคนคอยเล่นกับเจ้าตัวเล็กแก้เบื่อไปตลอด 6 ชั่วโมงบนรถไฟ ICE ที่ยาวนาน เป้าหมายที่เราจะไปที่แรกก็คือมิวนิคหรือมึนเซ่นตามภาษาเยอรมัน และพักสองคืนที่บ้านของน้องแซน ที่ปลายทางที่มิวนิคมีน้องหนูนารับอาสาจะพาเราไปเดินเล่นในเมืองมิวนิค รวมทั้งพาเราเที่ยวยังสถานที่ที่เรายังไม่เคยไปด้วย ส่วนวันที่สองเราก็ไปเที่ยวซัลสบวร์กแต่สาย ๆ และอยู่นั่นทั้งวัน พอเช้าวันที่สามเราก็ต้องไปขึ้นรถไฟไปบูดาเปรสแต่เช้าตามตารางรถไฟที่ได้จองไว้

รถไฟ ICE จากฮัมบวร์กไปมิวนิคแบบเที่ยวเดียวไม่แวะที่ไหนนั้น มีทุกชั่วโมงทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปถึงมิวนิคกี่โมง โดยเราเลือกขึ้นที่สถานีฮาร์บวร์กจะได้ไม่ต้องเดินทางไปฮัมบวร์ก  โชคไม่ค่อยดีนักที่ห้องในตู้โดยสารสำหรับ 6 คนนั้นมีคนจองตั้งแต่เนินแบร์กถึงมิวนิค ทำให้เราจะอยู่ในตู้นี้ได้แค่ 4 ชั่วโมงและต้องเปลี่ยนที่ในสองชั่วโมงสุดท้าย แต่ก็โชคไม่ร้ายนักเพราะจากเนินแบร์กถึงมิวนิคนั้นรถไฟค่อนข้างว่าง  พวกเรามีสี่คนจึงใช้ความได้เปรียบด้านพวกมากส่งคุณภรรยากับน้องแซนไปจองที่นั่งแบบสี่คนไว้ก่อน ทำให้เราสี่คนได้นั่งหันหน้าชนกันได้สะดวก

P8080563

เจ้าตัวน้อยกำลังเอร็ดอร่อยกับขนมขบเคี้ยว

จากนั้นอีกไม่นานนัก รถไฟก็พอมาจอดสถานีมึนเช่น(มิวนิค) สถานีที่มีผู้คนที่นอกจากจะมากหน้าหลายตาแล้วยังหลายเผ่าพันธ์อีกด้วย อย่างว่ามันเป็นเมืองท่องเที่ยว  ที่สถานีมีน้องหนูนามาคอยรับและพร้อมอาสาพาเราเที่ยว แต่ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างเราจึงตัดสินใจไปเก็บข้าวของที่บ้านน้องแซนก่อน บ้านน้องแซนก็ดีใจหายอยู่ชั้นห้า กว่าผมจะยกลากเ้จ้ากระเป๋าเดินทางหนัก 25 กิโลขึ้นไปได้ก็เล่นเอาปอดแลบอยู่นานสองนาน

บ้านน้องแซนเป็นห้องแบบสตูดิโอ คือมีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นในบริเวณที่ไม่กว้างมากนัก แต่ได้เปรียบหน่อยที่เป็นห้องใต้หลังคา ทำให้ได้เปรียบพื้นที่ใต้หลังคาไป แต่ไอ้ความที่เป็นใต้หลังคาทำให้หลายส่วนเตี้ยกว่าส่วนสูงของหลาย ๆ คน สุดท้ายก็มีเ้จ้าตัวเล็กตัวเดียวที่หัวไม่โขกเพดาน เพราะต่อให้กระโดดก็ยังโขกไม่ถึง

หลังจากนัดแนะกันเรียบร้อยแล้ว  หนูนาก็พอเราไปเที่ยวมิวนิครอบสองมีหลงทางบ้างสองสามหน เจ้าตัวก็ยอมรับอย่างหน้าบานว่า “ก็มาที่นี่แค่สี่ครั้งเอง ก็หลงเป็นธรรมดา” ที่แรกที่ไปก็คือศาลาว่าการจังหวัดนั่นแหละ สถานที่ที่แขกไปใครมาก็ต้องไปกัน เนื่องจากมาเป็นครั้งที่สองก็เลยไม่ต้องรอดูตุ๊กตาเดิน (มันใหญ่และดูดีกว่าที่ปรากหลายเท่าได้) วันที่ไปอากาศดีคนเลยเยอะมาก ๆ

P8080586

มีต่อ

Written by tsvhh

สิงหาคม 30, 2009 at 3:58 pm

เขียนใน เที่ยว

ขนาดนั้น

leave a comment »

อาผมเป็นนักคณิตศาสตร์ และอยากให้ผมเป็นนักคณิตศาสตร์ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ฉลาดนัก ผมก็บอกปัดมาตลอดเลยได้มาทำอาชีพคนสอนวิศวกรที่พอจะเป็นวิศวกรอยู่บ้าง เอาไปเอามาก็ต้องมาเป็นผู้ใช้คณิตศาสตร์อย่างพีชคณิตนามธรรม โอ้

เรื่องของเรื่องคืออยู่ดี ๆ เราจะไปบอกว่า (-a)(-b)=ab เนี่ยไม่ได้นะครับ เราต้องบอกเขาก่อนว่า a,b \in \mathbb{R} เมื่อ \mathbb{R} คือเซทของจำนวนจริง เพื่อเฉพาะเจาะจงว่า a,b เนี่ยมันอยู่ใน ring ที่มีเอกลักษณ์เชิงการบวก 0 นะ ว่าเ้ข้าไปนั่น จากนั้นเราต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ไอ้ (-a)(-b)+ab = 0 ซึ่งจะพิสูจน์ได้นี่ต้องยอมรับก่อนว่า a(-b)=(-a)b = -(ab) ก็ต้องพิสูจน์เหมือนกันนะ ยอมรับกันง่าย ๆ ไม่ได้

เอาหล่ะสมมติว่าเชื่อ เราจะได้ว่า (-a)(-b)=-(a(-b))=-(-(ab)) ทีนี้จากความจริงที่ว่า -(-(ab)) คือสมาชิกใน \mathbb{R} ที่บวกกับ -(ab) แล้วได้ 0   ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ว่าจำนวนนั้นคือ ab เราจึงสรุปได้ว่า (-a)(-b)=ab การนำเรื่องนี้ไปใช้งานเหรอ ถ้าไม่ต้องคุยกับคนที่รู้เรื่องพีชคณิตนามธรรม ก็เฉย ๆ ไว้ใช้ไปเลย  แต่ถ้าจำเป็นก็บอกเขาว่าไปดูหนังสือเล่มนั้นเอา A Frist Course in Abstract Algebra โดย Fraleigh, J. B. เอา

Written by tsvhh

สิงหาคม 27, 2009 at 10:22 am

เขียนใน ขำ, Mathematic

เที่ยว มิวนิค ซัลสบวร์ก บูดาเปรส เวียนนา กับเจ้าตัวน้อย — ตอนที่ 1 เกริ่น

with 2 comments

ตามธรรมเนียมของฤดูร้อน ที่คนเยอรมันจะต้องท่องเที่ยว หน้าร้อนนี้ก็เช่นกันเราก็ไปเที่ยวกันอีกแล้ว  ใครยังไม่เคยอ่านซีรีย์ท่องเที่ยวของผมก็ลองไปอ่าน

  1. เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน
  2. West Germany — Luxemburg — Belgium Trip
  3. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน
  4. เที่ยวแดนกังหันลมกับเจ้าตัวน้อย
  5. เที่ยวมิวนิคกับเจ้าตัวน้อย

เที่ยวครั้งนี้ทำลายสถิติเรื่องระยะเวลาของการเที่ยวทั้งหมด คราวนี้เที่ยว 9 วัน นอนสามที่สามประเทศ เพราะที่ผ่านมาเที่ยวมากสุดก็แค่ห้าคืน แต่ครั้งนี้ไปสองประเทศใหญ่ก็ต้องเผื่อเวลาไว้หน่อย ส่วนความเหนื่อยนั้นก็ทำลายสถิติโดยสิ้นเชิง จากระยะเวลาที่มากขึ้นกระเป๋าก็ใบใหญ่ขึ้น นอกจากนั้นลูกยังตัวโตน้ำหนักเพิ่ม งานนี้จะไม่เหนื่อยเพิ่มได้อย่างไร

แผนการเที่ยวครั้งนี้เริ่มต้นจากเราได้ตั๋วรถไฟราคาถูกมา  6 เที่ยว 160 ยูโร และสามารถใช้ได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ด้วยความที่เราเคยไปปรากมาแล้ว งานนี้ก็ต้องไปฮังการี (คนเยอรมันจะเรียกว่า อูกาน) โดยมีข้อแม้ว่าต้อง สวย สบาย และถูก เรื่องสวยเนี่ยไม่ต้องห่วงเพราะบูดาเปรส เมืองหลวงของประเทศฮังการีนี้สวยบาดใจอยู่แล้ว แต่เรื่องสบายเนี่ยต้องคุยกันนานวางแผนกันนาน  จากการดูตารางเดินรถไฟคร่าว ๆ เราพบว่า การเดินทางโดยรถไฟจากฮัมบวร์กไปยังบูดาเปรสนั้นใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมง โดยรถไฟ EC ซึ่งไม่สะดวกสบายเอาซะเลย แผนการเดินทางโดยรถไฟสายตรงจึงสิ้นสุดลง เราต้องเปลี่ยนแผนหลายตลบ และมาโชคดีที่เรามีน้องแซนพำนักอยู่ที่มิวนิค (มึืนเช่น) และมีแรงดลใจให้อยู่ช่วงที่เราจะไปเที่ยวพอดี เราเลยตัดสินใจไปเที่ยวมิวนิครอบสองด้วยโดยจะค้างคืนที่บ้านน้องแซนหนึ่งคืน ซึ่งนอกจากจะได้ที่พักเรายังได้คนช่วยเลี้ยงเจ้าตัวน้อย (ซึ่งปัจจุบันนั้นไม่น้อยแล้ว สี่ขวบครึ่ง ซนเหมือนลิง แถมพูดได้หลายภาษาและพูดไม่ค่อยจะยอมหยุด) และยังได้คนนำเที่ยวซัลสบวร์กอีกด้วย

ซัลสบวร์ก (Salzburg) ตอนแรกนั้นเป็นเพียงตัวเลือกที่จะสามารถตัดออกได้ทุกเวลาถ้าเที่ยวรถไฟ วันที่ต้องพักโรงแรมไม่สะดวก เราก็จะตัดซัลสบวร์กบ้านเกิดของนักดนตรีชื่อก้องโลกออกไปแต่สุดท้ายก็ไม่ตัด  ตามแผนก็คือเราตั้งใจเดินทางไปมิวนิคจากฮัมบวร์กในสาย ๆ ของวันเสาร์และตั้งใจกลับฮัมบวร์กตอนบ่าย ๆ ของวันอาทิตย์ในอาิทิตย์ต่อมา การเดินทางจากรัฐเหนือสุดของเยอรมันไปยังรัฐใต้สุดของเยอรมันใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงโดยรถไฟ ICE แบบไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ซึ่งมีทุก ๆ ชั่วโมง และการใช้ตั๋ว Tchibo ที่เปิดให้ไปเที่ยวไหนก็ได้จึงสะดวกมากสำหรับเรา

และเหมือนเช่นเคยการเที่ยวของเราก็จำเป็นต้องวางแผนอย่างดี ครอบครัวเราลงทุนกับเรื่องนี้เสมอ ไม่ว่าจะเตรียมตัวเรื่องหนังสือท่องเที่ยว การค้นข้อมูลที่พัก แผนผังการเดินรถของประเทศต่าง ๆ เรื่องเหล่านี้คุณภรรยาถนัดและละเอียดมาก การเตรียมตัวก็ทำกันล่วงหน้าสองเดือนคุยกันแทบทุกคืน ที่พักก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก จนได้ที่ ๆ ดี ถูก และใกล้ นั่นแหละ เรื่องนี้ต้องยกประโยชน์ให้คุณภรรยา เพราะผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย มีหน้าที่กดปุ่มปล่อยลูกโป่งเท่านั้นเอง

การเดินทางของเรานั้นก็เป็นไปตามแบบชาวเยอรมันทั่วไปที่มักเตรียมของกินไปด้วย ซึ่งงวดนี้เราก็ขนไปเต็มพิกัดทั้งขาไปและขากลับ (ขากลับมักจะสำคัญ คือเหนื่อยหิวและเงินหมด และต้องมาพบความจริงที่เลี่ยงไม่ได้เสมอคือค่าอาหารบนรถไฟแพงจนรับไม่ได้) เราเลือกที่จะใช้กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ใบเดียว แทนที่จะเป็นสองใบแบบครั้งก่อน ๆ เพื่อลดความยุ่งยาก เพราะคนหนึ่งต้องคอยวิ่งตามเจ้าตัวเล็กหรือต้องเข็นรถเข็น จะได้ไม่ต้องมาห่วงกระเป๋าเดินทางอีก ผมเลยมีหน้าที่แบกกระเป๋าที่มีน้ำหนักอยู่ราว ๆ 25 กิโลกรัม ไปตลอดทาง

การเที่ยวของเราวันแรกก็เที่ยวมิวนิค ส่วนวันที่สองก็ไปซัลสบวร์ก ซึ่งสองวันแรกไม่มีอะไรให้จดจำมากนั้นเพราะเป็นผู้ตามมีน้องหนูนา กับน้องแซนพาเที่ยว สองคนนี้นอกจากจะเป็นพี่เลี้ยงเจ้านีรได้เป็นอย่างดีแล้วยังเป็นคนนำทางที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย

หลังจากเที่ยวซัลสบวร์กแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังบูดาเปรสในเวลาเช้าของอีกวันหนึ่งโดยรถไฟรุ่นใหม่ของออสเตรีย ใช้เวลาเดินทางสามชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงสถานีรถไฟอันสวยงามแต่เปลือกของบูดาเปรส และใช้เวลาอีกนานโขกว่าจะซื้อตั๋วรถแบบครอบครัวได้ รวมไปถึงการหาเห็นทางไปยังอพาร์ทเม้นท์ที่ได้จองไว้ ทั้งนี้ใครที่ไปบูดาเปรสช่วงนี้จะต้องปวดเศียรเวียนเกล้ากับสิ่งที่สร้างยังไม่เสร็จหลาย ๆ อย่างที่พยายามทำพร้อม ๆ กัน รถรางที่ระบุไว้ในตารางเดินรถก็กลายเป็นรถเมล์แทน แต่สิ่งแย่ ๆ ก็มีสิ่งประทับใจแฝงอยู่นั่นคือคนท้องถิ่นที่หลุดพ้นภาวะสงครามและระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิตส์มาแล้ว และยินยอมพร้อมใจต้อนรับนักท่องเที่ยวเต็มที่ เราแค่ไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ แถวป้ายรถเมล์ คนบูดาเปรสที่พวกภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็เข้ามาหาแล้วบอกข้อมูลทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เ้จ้าหน้าที่ สิ่งเหล่านี้สร้างความประทับใจให้กับผมมากกว่าสถานที่เป็นไหน ๆ  เราอยู่บูดาเปรสถึงสี่วันสามคืนในอพาร์ตเม้นท์ที่มีทุกอย่างที่บ้านคนมีฐานะพึงมี จึงสบายมาก ๆ

จากเมืองที่ยังสร้างไม่เสร็จของบูดาเปรสเราก็เดินทางไปยังเมืองที่สร้างเสร็จอย่างดีแล้วที่ชื่อเวียนนา จะว่าไปในใจผมนึกเสมอว่าประเทศออสเตรียน่าจะเป็นประเทศที่มีความเจริญไม่ไกลจากเบลเยี่ยมและไม่อยู่ในสายตาไม่ว่าจะในแง่ไหน และถึงแม้จะได้ไปซัลสบวร์กมาแล้วความคิดก็ยังไม่เปลี่ยน  ที่ไหนได้เมืองหลวงของประเทศออสเตรียคือเมืองในฝันนี่เอง ร่ำรวย มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม การคมนาคมสะดวกและถูกออกแบบได้ดีมากstaphan ผู้คนถึงจะไม่ได้ยิ้มแย้มแจ่มใสนัก แต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ สิ่งเดียวที่เวียนนาขาดก็คือความถูก ถึงแม้ ไอสครีม กับร้านจีนที่ซื้อแล้วยืนกินจะราคาไม่แพงก็เถอะ

ขณะที่เราเที่ยวเวียนนาเราก็บ่นกันไปว่าำทำไมไม่อยู่ให้นานกว่านี้  อย่างไรก็ตามสภาพของเวียนนาที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกดีกว่า ฮัมบวร์ก ก็ไม่น่าจะมีเหตุให้ลำบาก แต่เราก็ต้องพบกับความหวาดเสียวตื่นเต้นหลายครั้งในสามวันที่อยู่ และในวันสุดท้ายกลางดึกเราก็ลากสังขารอันแก่ชราแล้วที่หมดสภาพ กลับไปยังบ้านน้อง แซน และตัดสินใจเลือกเที่ยวรถไฟกลับฮัมบวร์กในยามบ่ายแก่ ๆ ของวันถัดมา

เมื่อถึงฮัมบวร์กคนที่ดูมีความสุขที่สุดเห็นจะเป็นเข้าตัวน้อย ที่ตื่นเต้นลิงโลดที่จะได้กลับมาสู่บ้านเกิดของเขา บ้านที่เขาเป็นราชา และมีทุกอย่างที่สะดวกสบายสำหรับเขา

ถ้านึกย้อนกับไป การเที่ยวครั้งนี้เรารู้สึกดีใจที่ได้เก็บแต้มสองประเทศใหญ่คือออสเตรียกับฮังการี แต่นึกผิดหวังและเสียดายที่แทบจะไม่ได้เข้าชมภายในของสถานที่สำคัญเลย อย่างไรก็ตามเราก็ยังพอได้เลือกเข้าสถานที่ที่แตกต่างจากประเทศที่เคยไปและราคาไม่แพงมากนัก เพื่อประหยัดเวลาและประหยัดเงิน  นี่ขนาดออกจากที่พักสิบโมงกลับสี่ทุ่มแล้วนะ ท้ายที่สุดของการเที่ยวครั้งนี้เราได้ข้อสรุปตรงกันว่า ถ้าจะมีใครซักคนมาให้เราพาเที่ยวยุโรป เราก็จะขอพาเที่ยวเวียนนา ห้าวัน ห้าคืน ก็แล้วกัน นี่ถ้าเวียนนามีร้านค้าร้านอาหารแบบที่ปรากมี รวมทั้งมีหนังติดตลาดโลกแบบปารีสมี ข้อเสนอของเราคงจะไม่มีใครเกี่ยงแน่นอน

Written by tsvhh

สิงหาคม 17, 2009 at 9:39 pm

เขียนใน เที่ยว

ประเทศไทยขายอะไรให้ต่างประเทศ

leave a comment »

อ่านจากเว็บนี้ ประเทศไทยขายอะไร อ่านแล้วเศร้า เศร้าเพราะว่าสินค้าส่งออกหลักอันดับต้น (สามอันดับแรก) ของไทยนั้นไม่ใช่สินค้าเกษตรมาตั้งนานแล้ว (หนึ่งในนั้นคือ Harddisk ซึ่งมีการแจกโจทย์งานวิจัยให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยทำวิจัยมาหลายปีแล้ว)

ถ้าเศร้ายังไม่พอ ก็คงต้องบอกว่า ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกของไทยนั้น หาได้ง่ายมาก ๆ จากเว็บของรัฐบาลที่มักโดนดูถูกว่าห่วย แต่ความจริงคือดูดีกว่าเว็บสื่อหลาย ๆ อัน ที่สำคัญข้อมูลนี้อยู่ในหน้าแรกและหาได้ง่ายมาก ๆ ไปดูได้ที่เว็บกระทรวงพาณิชย์ จะได้หูตาสว่าง

เลือกย้อนหลังไปซักสิบปีนะครับ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขียนอะไรน่ะไม่ว่าหรอกครับ แต่ค้นข้อมูลก่อนเขียนเพราะอ่านเด็กมัน เขียน blog ได้แต่ค้นข้อมูลไม่เป็นมันไร้สาระนะครับ เพราะเขียนกันเอาสนุกแล้วก็ให้มันฝังอยู่ในความเชื่อ แล้วก็เชื่อกันต่อ ๆ ไป โดยไม่ค้นข้อมูล นี่แหละตัวการสำคัญที่ทำให้ชาติหยุดนิ่ง

Written by tsvhh

สิงหาคม 1, 2009 at 9:32 am

เขียนใน ขำ, สังคม

ในโลกของคณิตศาสตร์แล้ว อย่างด่วนตอบว่า…

with 2 comments

ในโลกของคณิตศาสตร์แล้ว ถ้าไม่มั่นใจอย่างด่วนตอบว่า
b\cdot\dfrac{1}{a} = \dfrac{b}{a}
มันอาจจะไม่เท่าก็ได้ Mann!

ยกตัวอย่างเช่น
f_1 = t, \qquad f_2 = \dfrac{1}{s+2t}
เมื่อ t\in\mathbb{R} และ s เป็น Derivative Operator

f_1\cdot f_2 = \dfrac{t}{s+\dfrac{2t^2-1}{t}}

ในขณะที่
f_2\cdot f_1 = \dfrac{t}{s+2t}

Written by tsvhh

กรกฎาคม 30, 2009 at 3:59 pm

เขียนใน การศึกษา, ขำ

Tagged with ,

40th Anniversary events (Apollo 11)

leave a comment »

อยู่ดี ๆ ก็นึกครึ้มนั่งดูทีวีหลังจากตัดผมให้ลูกชายเสร็จ ดูจนถึงหลังเที่ยงคืนนั่นแหละ ปรากฎว่าโชคดีได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 40th ของการเหยียบดวงจันทร์ ซึ่งแน่นอนทีวีเยอรมันก็นำเอาสารคดีเกี่ยวกับเรื่องทฤษฎีลวงโลกมาฉายหลายช่อง ผมน่ะเชื่ออยู่แล้วครับว่าเขาไปเหยียบจริง แน่นอนเชื่อเพราะว่า NASA ตอบได้ทุกคำถาม และภาพที่เห็นมันสี่สิบปีที่แล้ว ก่อนผมเกิดตั้งหลายปี เหมือนเราดูหนัง Star Wars ภาค New hope เมื่อยี่สิบห้าปีก่อนไงงั้นเลย มันเป็นเรื่องตื่นเต้นมาก แต่พอมาดู Star Wars เดี๋ยวนี้มันก็เห็นกันได้ทั่วไป ดังนั้นอย่าเอาความรู้สึกเดี๋ยวนี้ไปตัดสินเรื่องจริงไม่จริงของเมื่อสี่สิบปีก่อน

ปล. ตัดผมลูกไปก็ดู der Bear ไป มีเรื่องเกี่ยวกับวันเกิดพระจันทร์พอดี

Written by tsvhh

กรกฎาคม 20, 2009 at 7:33 am

เขียนใน การศึกษา, ขำ

Robocup 2009 เริ่มแล้วนะครับ

leave a comment »

Robocup2009 Logo

เมื่อวานกับวันนี้เป็นแค่การซ้อม พรุ่งนี้เริ่มแ่ข่งจริง ก็มีทีมไทยเข้าแข่งสามประเภทตามปกติ งานนี้เจ้าภาพจัดดีมาก มีวิดีโอรายงานภาพรวมมาสองวันแล้ว ติดตามได้ที่
robocup 2009

2 กรกฎาคม 2552

ในวันนี้เริ่มมีการแข่งขันแล้วในหลายรายการ สำหรับ small size league ก็ไม่น่ามีปัญหาสำหรับ Plasma Z กับ Scuba สองตัวแทนทีมไทยที่จะเข้าสู่รอบสอง ส่วนอีกการแข่งขันคือ Humanoid robot kid size ซึ่งผ่านรอบแรกแบบสบาย ๆ ตอนนี้แข่งรอบสองนัดแรกเจอแชมป์เก่า Darmstadt Dribblers เต็งหนึ่ง(มั้ง)จากเยอรมัน  สอยไปหมดสภาพ แต่ยังน่าดีใจที่สามารถเอาชนะ UofM Humanoids (ทีมจากแคนนาดา) ในนัดที่สองได้แบบขาดลอย 8-0 ซึ่งต้องไปลุ้นนัดสุดท้ายกับ Robo-Erectus Jr ทีเพื่อนบ้านจากสิงค์โปร์ ถ้าดูตามฟอร์มแล้วน่าจะผ่านได้ไม่ยาก ส่วนรอบต่อไปควรจะเป็น 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งถ้าผมเดาไม่ผิดก็จะไปเจอ CIT Brains (Kid Size) จากญีุ่ปุ่น งานไม่หนักมากแต่น่าจะสนุกมาก ๆ เอาใจช่วยครับ ขอให้ได้ผ่านเข้ารอบสีทีมสุดท้ายเป็นอย่างน้อย

4 กรกฏาคม 2552

ทีมไทยมีลุ้นทุกทีมนะครับ Humanoids นั้นต้องลุ้นว่าจะโค่น CIT Brains (Kid Size) (เข้าใจว่าเต็งสี่่ ที่เหลืออีกสามทีมเยอรมันล้วน) ได้หรือไม่ ส่วน small-size นั้นปีนี้ scuba มาแรงมาก ได้ที่หนึ่งเรื่องเทคนิคอยู่ และทั้ง scuba กับ plasma-z ก็ได้เป็นทีมยืนในรอบ 8 ทีม  อีกการแข่งขันหนึ่งคือทีมหุ่นกู้ภัยทีม iRAP PRO มีคะแนนเป็นที่หนึ่งอยู่ แต่คู่แข่งจากญี่ปุ่นและออสเตรเลียก็น่ากลัวหายใจรดต้นคออยู่  เอาใจช่วยทุกทีมนะครับ

สิ่งที่น่าสังเกตนะครับ หุ่นยนต์ อุปกรณ์ ต่าง ๆ ที่เราเห็นในการแข่งขัน robocup ปีที่ผ่าน ๆ มาที่ยังเป็นรุ่นแม่แบบอยู่ งานนี้มีออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายตามท้องตลาดเรียบร้อยแล้ว  เช่น quad-copter ที่เห็นในห้องทดลองเมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ตอนนี้เป็นผลิตภัณฑ์ข่ายราคาไม่กี่หมื่นแล้ว

ล่าสุดทีม KMUTT (Humanoids) ก็ผ่านด่านหิน CIT Brains (Kid Size) ไปไม่ได้ พ่ายไปแบบสูสีคือ 5-2 ประตู ถือว่าทำได้ไม่เลวทีเดียวสำหรับปีนี้ ปีหน้าไปแค่สิงคโปร์ คงจะสนุกกว่านี้ เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางคงจะถูกลงไปเยอะ มีเงินพัฒนาหุ่นมากขึ้น ใครอยากรู้ว่าถ้าอยากอยู่ในระดับโลก ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ก็คร่าว ๆ ทีม scuba ของเกษตรเขาทุ่มเงินไป 3.4 ล้านบาท

ส่วน small size league นั้น จบรอบ 8 ทีมเรียบร้อย รอบ 4 ทีม Scuba พบ Plasma Z ศึกสายเลือดไทย งานนี้สูสี และสนุกแน่ครับ อีกสายเป็นการเจอกันของญี่ปุ่นเจอญี่ปุ่น ทีมหนึ่งชนะพลิกล็อครองแชมป์โลกอย่าง CMUdragon ที่มีปัญหาเรื่องการประมวลผลภาพ งานนี้แน่นอนแล้วว่าไทยชิงแชมป์กับญี่ปุ่น ต้องดูว่าทีมไทยจะรักษาแชมป์ หรือญี่ปุ่นจะมาสร้างตำนานบทใหม่ แต่ถ้าดูจากฟอร์มที่ผ่าน ๆ มาแล้ว ไทยแชมป์กับที่สามค่อนข้างแน่นอนครับ  แต่เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับดวงด้วย

5 กรกฏาคม 2552

ปีนี้ทีมไทยเก็บรางวัลได้มากกว่าเท่าเดิมครับเพราะทีม Skuba กวาดรางวัลชนะเลิศทุกประเภทในการแข่งขัน small size คือชนะเลิศการแข่งขัน เทคนิคยอดเยี่ยม และเอกสารยอดเยี่ยมครับ ยินดีด้วย และทุกทีมก็ทำผลงานดีขึ้นในทุกการแข่งขัน

Written by tsvhh

กรกฎาคม 1, 2009 at 12:08 pm

เขียนใน การศึกษา, robocup

การเพิ่มประสิทธิภาพกับการลดต้นทุนของบริษัทใหญ่

leave a comment »

อ่านความเห็นที่ว่า Nation ยังใช้ Cu Writer ในการพิมพ์งาน ด้วยเหตุผลแค่ว่าง่ายและถูก บริษัทคิดตื้นไปหรือเปล่าครับ  ถ้ายังจำกันได้ 7-11 ในไทยมีพนักงานเสนอให้ลดความยาวของสลิปรายการซื้อขาย แล้วบริษัทก็เอาไปทดลองวิจัย แล้วได้ผลคือลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ลงไปได้มาก

ที่ IKEA ฮัมบวร์ก ใครไปซื้อของสองสามชิ้นแล้วต้องรอจ่ายเงินจะรู้สึกว่าน่าเบื่อมาก แถวยาว สินค้าของ IKEA ก็ไม่เหมาะที่จะวางบนราง ทำให้เสียเวลาแต่ละคิวยาวมาก ๆ ลูกค้าก็คงน้อยลงไปด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน เช่นถ้าจะไปซื้อของ IKEA ก็ส่ายหน้า ด้วยเหตุผลแค่ว่าขี้เกียจรอจ่ายเงิน ซื้อแค่ไม่กี่ชิ้น  รู้ไหมครับว่า IKEA ทำอย่างไร อาจจะเดาว่าเพิ่มเคาท์เตอร์คิดเงิน ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีเพราะการเพิ่มเคาท์เตอร์คิดเงินย่อมจะเพิ่มความเร็วในการคิดเงินได้ แต่ไม่หรอกครับ IKEA ทำตรงกันข้ามคือลดเคาท์เตอร์คิดเงินลงครึ่งหนึ่ง แล้วเปลี่ยนเป็นเคาท์เตอร์คิดเงินแบบบริการตัวเอง จากที่ช่องทางเดียวมีหนึ่งเคาท์เตอร์ก็กลายเป็นสี่ แต่คนต้องบริการตัวเองนะครับ (ใช้บัตรแทนเงินสด) ในหนึ่งช่องจะมีพนักงานคอยดูแลหนึ่งคน (ประหยัดค่าจ่ายคนงานได้อีก) ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะคนที่ซื้อของชิ้นเล็ก ๆ ไม่ต้องไปรอต่อคิว เสียเวลาแค่นาทีเดียวก็เดินปร๋อกลับบ้านได้แล้ว  แต่โมเดลนี้อาจจะใช้กับประเทศอื่นในยุโรปไม่ได้ ที่ใช้ในเยอรมันได้เพราะคนเยอรมันนั้นซื่อสัตย์มาก จำนวนการโกงต่อยอดขายจึงน้อยมาก

เมื่อวันก่อนก็พึ่งไป IKEA มา ซึ่งเป็นรอบที่ 25 เห็นจะได้ ก็พบกับสิ่งใหม่อีกแล้ว ปกติราคาฮ็อตด็อกบวกแก้น้ำกระดาษไข 30 cc (เติมไม่อั้น) จะราคา 1.50 ยูโร ตอนนี้เหลือ 1 ยูโร แต่แก้วนั้นเปลี่ยนเป็นแก้ขนาด 20 cc และเป็นพลาสติกแบบบางมาก ๆ มองผ่าน ๆ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เมื่อผมใช้บริการผมเข้าใจเลยว่าเป็นการลดต้นทุนได้มากโข เพราะแก้วแบบที่ว่าใช้ได้สามรอบก็เก่งแล้วครับ เพราะคุณภาพแก้วมันไม่เหมาะกับการเอาไปใช้กดน้ำอัดลมจากหัวกด นั่นคือแก้วเล็กลง จำนวนครั้งที่เติมได้จำกัด ลดการเวียนเทียนได้มากโขทีเดียว (กรณีนี้คนเยอรมันก็เติมและเวียนเทียนกัน ดื่มน้ำเต็มที่แล้วก็เก็บแก้วไว้ไปซื้อของแล้วกับมาดื่มใหม่ ไม่ต้องเสีย 50 เซ็นต์เพิ่ม) งานนี้ IKEA นอกจากจะได้ใจเพราะสินค้าถูกลง แต่ยังได้ลดต้นทุนแฝงอีกด้วย

บริษัทใหญ่ต้องไม่คิดตื้นครับ

Written by tsvhh

มิถุนายน 29, 2009 at 10:22 am

เขียนใน ขำ

Free Partition programs

leave a comment »

ใกล้เวลาได้ซื้อ Labtop ใหม่ในงบประมาณไม่เกิน 25,000 บาท ซึ่งจะมาพร้อมกับ FreeDOS แล้วก็จะลงโปรแกรม Windows ของมหาวิทยาลัย ซึ่งประหยัดเงินได้มากโข อย่างไรก็ตามต้องเตรียมดูโปรแกรมสำหรับแบ่งพาร์ติชันไว้ก่อน ก็มีดังนี้

  1. TestDisk
  2. Gparted

ตัวแรกน่าจะดูดีมีภาษีกว่านะ

Written by tsvhh

มิถุนายน 26, 2009 at 6:55 pm

เขียนใน Uncategorized

Tagged with

เทคนิคการเล่น Restaurant City แบบไม่ให้เสียเวลาเปล่า

with 3 comments

Restaurant City เกมแบบที่ใช้ยุทธการแมลงหวี่ที่หาเล่นได้จาก facebook จะว่าไปแล้วมันก็คือเกม Pizza Tygoon ที่เล่นกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั่นเอง ซึ่งเกมหลังเล่นไปเล่นมากลายเป็นมาเฟียไปเฉย ความสนใจในการทำร้าน Pizza ให้ได้ดีก็หมดไป ค้าอาวุธลูกเดียว ส่วนเกมที่มาทีหลังอย่าง Restaurant City นั้นมีวิธีการง่าย ๆ ที่เข้าใจได้ไม่ยาก ดังนี้

  1. คนปรุงอาหารต้องเพียงพอเสมอ สูตรตายตัวคือ 3 คนต่อพนักงานเสริฟ 1 คน
  2. ลูกค้าจะต้องใช้เวลาไปกลับให้นานที่สุด
  3. คนเสริฟจะต้องเดินทางให้สั้นที่สุด

ข้อสามนี้เองที่เป็นจุดสุดยอดของเกมนี้ กล่าวคือนี่คือปัญหา min max โดยมีเงื่อนไขที่ยากที่สุดคือคนต้องเ้ข้าไปนั่งได้ด้วย วันก่อนพึ่งนั่งเรียน Convex Optimization เรื่องการ Place ทำให้คิดว่าปัญหาข้อสามที่เราเจอบนเกมนี้สามารถหาค่าที่ดีที่สุดได้

ถ้าสังเกตุดี ๆ ปัญหาที่เกมนี้ในข้อสามคือ มันจะมีเหตุการณ์ที่คนเสริฟมักจะเดินจากมุมสุดของเตาไปยังอีกมุมของลูกค้าที่อยู่ไกลมาก ๆ อยู่เสมอ  ๆ ซึ่งเป็นเรื่องไม่พึงประสงค์เพราะมีลูกค้าหลายคนรอให้เก็บโต๊ะ และพร้อมที่จะเดินหนี ถ้าเป็นคนเล่นก็คงเก็บโต๊ะก่อนแล้วค่อยไปเสริฟ กรณีอย่างนี้ถ้าเราเฝ้าดูจะพบว่าพนักงานเสริฟจะมีคิวของงาน กล่าวคืออะไรมาก่อนทำก่อน นั่นคือไม่ว่าคนเสริฟจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ตามเมื่อเสร็จงานนั้น ๆ แล้วก็จะไปทำงานในคิวต่อไป โดยไม่สนใจว่างานนั้นจะอยู่ไกลเท่าไร่ ดังนั้นเพื่อให้การจัดโต๊ะเป็นไปอย่างดีที่สุดตำแหน่งของโต๊ะต้องทำให้พนักงานเสริฟเดินใกล้ที่สุด นั่นคือเราต้องหาวิธีการคิดที่จะทำให้ระยะทางที่ไกลที่สุดสั้นที่สุด และระยะทางนั้นต้องเป็นบวกด้วย ยังไม่พอเราต้องมีการคิดด้วยว่าถ้าคำตอบได้ระยะทางที่ไม่ไกลมาก แต่มีหลาย ๆ อัน ก็น่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นต้องมีการชั่งน้ำหนักว่าผลรวมของระยะทางต้องไม่มากเกินไปหรือต้องน้อยที่สุด มาลองเขียนปัญหานี้ดู

\text{minimize } \max x_i + \gamma\max x^T\bold{1}
\text{ subject to } x_i \geq 0, \quad y_j > 0

ในกรณีนี้ \gamma เป็นค่าน้ำหนักว่าเราสนใจกรณีไหนมากกว่ากัน ส่วน y_j เป็นโอกาสที่ลูกค้าจะเข้าถึงที่นั่ง ส่วนตัวแปรที่จะใช้ในการ minimize นั้นต้องคิดเอาเองนะครับ เพราะกรณีนี้ต้องมีโต๊ะที่คงที่กับโต๊ะที่เลือกวางได้ สมการของ x_i ก็จะหลากหลายแตกต่างกันออกไป

อาจารย์คณิตศาสตร์อาจจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างโจทย์ปัญหาให้นักศึกษาแก้โดยมีสนามจริงให้พิสูจน์ นั่นคืออาจารย์ก็เล่น Restaurant City พอไปถึงสถานการณ์ที่คนเสริฟจำกัด 2 คน คนปรุงอาหาร 5 คน ร้านมีพื้นที่จำกัด (แน่หละสิ) ก็จะเกิดปัญหานี้ขึ้นพอดี ก็ให้นักศึกษาเข้าไปแก้ไข แล้วก็เปิดเว็บลองเล่นกันดูเลยว่าของใครดีกว่าใคร อนึ่งปัญหานี้มันไม่ convex คำตอบจึงไม่เป็นคำตอบเดียว นักศึกษาสามารถแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญหาแบบ convex หรือใช้วิธีการแบบ nonconvex แต่ไปแก้ปัญหาเรื่องค่าตั้งต้น หรือลดจำนวนตัวแปรเอา ก็น่าจะสนุกดี กรณีตัวอย่างนี้น่าสนุกเพราะโดยปกติปัญหาที่ยกขึ้นมาในวิชาต่าง ๆ มันเป็นตัวอย่างง่าย ๆ พิสูจน์ความเข้าใจได้ด้วยการพยักหน้า แต่แก้ไขสถานการณ์จริงไม่ได้ ครั้นจะลองกับปัญหาจริง ๆ ก็ไม่มีใครกล้าลงทุนลงแรง อย่างนี้น่าจะสนุกกว่า

สิ่งที่ต้องระวังอย่างเดียวคืออาจารย์กับลูกศิษย์จะไม่ทำอะไรนอกจากแข่งกันเล่นเกมโดยใช้คณิตศาสตร์เข้าช่วยหรือเปล่าก็เท่านั้น

Written by tsvhh

มิถุนายน 14, 2009 at 9:48 am

เขียนใน การศึกษา, ขำ

Tagged with