Archive for มิถุนายน 2009
การเพิ่มประสิทธิภาพกับการลดต้นทุนของบริษัทใหญ่
อ่านความเห็นที่ว่า Nation ยังใช้ Cu Writer ในการพิมพ์งาน ด้วยเหตุผลแค่ว่าง่ายและถูก บริษัทคิดตื้นไปหรือเปล่าครับ ถ้ายังจำกันได้ 7-11 ในไทยมีพนักงานเสนอให้ลดความยาวของสลิปรายการซื้อขาย แล้วบริษัทก็เอาไปทดลองวิจัย แล้วได้ผลคือลดค่าใช้จ่ายด้านนี้ลงไปได้มาก
ที่ IKEA ฮัมบวร์ก ใครไปซื้อของสองสามชิ้นแล้วต้องรอจ่ายเงินจะรู้สึกว่าน่าเบื่อมาก แถวยาว สินค้าของ IKEA ก็ไม่เหมาะที่จะวางบนราง ทำให้เสียเวลาแต่ละคิวยาวมาก ๆ ลูกค้าก็คงน้อยลงไปด้วยเหตุผลนี้เช่นกัน เช่นถ้าจะไปซื้อของ IKEA ก็ส่ายหน้า ด้วยเหตุผลแค่ว่าขี้เกียจรอจ่ายเงิน ซื้อแค่ไม่กี่ชิ้น รู้ไหมครับว่า IKEA ทำอย่างไร อาจจะเดาว่าเพิ่มเคาท์เตอร์คิดเงิน ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีเพราะการเพิ่มเคาท์เตอร์คิดเงินย่อมจะเพิ่มความเร็วในการคิดเงินได้ แต่ไม่หรอกครับ IKEA ทำตรงกันข้ามคือลดเคาท์เตอร์คิดเงินลงครึ่งหนึ่ง แล้วเปลี่ยนเป็นเคาท์เตอร์คิดเงินแบบบริการตัวเอง จากที่ช่องทางเดียวมีหนึ่งเคาท์เตอร์ก็กลายเป็นสี่ แต่คนต้องบริการตัวเองนะครับ (ใช้บัตรแทนเงินสด) ในหนึ่งช่องจะมีพนักงานคอยดูแลหนึ่งคน (ประหยัดค่าจ่ายคนงานได้อีก) ความเร็วที่เพิ่มขึ้นนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะคนที่ซื้อของชิ้นเล็ก ๆ ไม่ต้องไปรอต่อคิว เสียเวลาแค่นาทีเดียวก็เดินปร๋อกลับบ้านได้แล้ว แต่โมเดลนี้อาจจะใช้กับประเทศอื่นในยุโรปไม่ได้ ที่ใช้ในเยอรมันได้เพราะคนเยอรมันนั้นซื่อสัตย์มาก จำนวนการโกงต่อยอดขายจึงน้อยมาก
เมื่อวันก่อนก็พึ่งไป IKEA มา ซึ่งเป็นรอบที่ 25 เห็นจะได้ ก็พบกับสิ่งใหม่อีกแล้ว ปกติราคาฮ็อตด็อกบวกแก้น้ำกระดาษไข 30 cc (เติมไม่อั้น) จะราคา 1.50 ยูโร ตอนนี้เหลือ 1 ยูโร แต่แก้วนั้นเปลี่ยนเป็นแก้ขนาด 20 cc และเป็นพลาสติกแบบบางมาก ๆ มองผ่าน ๆ ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เมื่อผมใช้บริการผมเข้าใจเลยว่าเป็นการลดต้นทุนได้มากโข เพราะแก้วแบบที่ว่าใช้ได้สามรอบก็เก่งแล้วครับ เพราะคุณภาพแก้วมันไม่เหมาะกับการเอาไปใช้กดน้ำอัดลมจากหัวกด นั่นคือแก้วเล็กลง จำนวนครั้งที่เติมได้จำกัด ลดการเวียนเทียนได้มากโขทีเดียว (กรณีนี้คนเยอรมันก็เติมและเวียนเทียนกัน ดื่มน้ำเต็มที่แล้วก็เก็บแก้วไว้ไปซื้อของแล้วกับมาดื่มใหม่ ไม่ต้องเสีย 50 เซ็นต์เพิ่ม) งานนี้ IKEA นอกจากจะได้ใจเพราะสินค้าถูกลง แต่ยังได้ลดต้นทุนแฝงอีกด้วย
บริษัทใหญ่ต้องไม่คิดตื้นครับ
เทคนิคการเล่น Restaurant City แบบไม่ให้เสียเวลาเปล่า
Restaurant City เกมแบบที่ใช้ยุทธการแมลงหวี่ที่หาเล่นได้จาก facebook จะว่าไปแล้วมันก็คือเกม Pizza Tygoon ที่เล่นกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั่นเอง ซึ่งเกมหลังเล่นไปเล่นมากลายเป็นมาเฟียไปเฉย ความสนใจในการทำร้าน Pizza ให้ได้ดีก็หมดไป ค้าอาวุธลูกเดียว ส่วนเกมที่มาทีหลังอย่าง Restaurant City นั้นมีวิธีการง่าย ๆ ที่เข้าใจได้ไม่ยาก ดังนี้
- คนปรุงอาหารต้องเพียงพอเสมอ สูตรตายตัวคือ 3 คนต่อพนักงานเสริฟ 1 คน
- ลูกค้าจะต้องใช้เวลาไปกลับให้นานที่สุด
- คนเสริฟจะต้องเดินทางให้สั้นที่สุด
ข้อสามนี้เองที่เป็นจุดสุดยอดของเกมนี้ กล่าวคือนี่คือปัญหา min max โดยมีเงื่อนไขที่ยากที่สุดคือคนต้องเ้ข้าไปนั่งได้ด้วย วันก่อนพึ่งนั่งเรียน Convex Optimization เรื่องการ Place ทำให้คิดว่าปัญหาข้อสามที่เราเจอบนเกมนี้สามารถหาค่าที่ดีที่สุดได้
ถ้าสังเกตุดี ๆ ปัญหาที่เกมนี้ในข้อสามคือ มันจะมีเหตุการณ์ที่คนเสริฟมักจะเดินจากมุมสุดของเตาไปยังอีกมุมของลูกค้าที่อยู่ไกลมาก ๆ อยู่เสมอ ๆ ซึ่งเป็นเรื่องไม่พึงประสงค์เพราะมีลูกค้าหลายคนรอให้เก็บโต๊ะ และพร้อมที่จะเดินหนี ถ้าเป็นคนเล่นก็คงเก็บโต๊ะก่อนแล้วค่อยไปเสริฟ กรณีอย่างนี้ถ้าเราเฝ้าดูจะพบว่าพนักงานเสริฟจะมีคิวของงาน กล่าวคืออะไรมาก่อนทำก่อน นั่นคือไม่ว่าคนเสริฟจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ตามเมื่อเสร็จงานนั้น ๆ แล้วก็จะไปทำงานในคิวต่อไป โดยไม่สนใจว่างานนั้นจะอยู่ไกลเท่าไร่ ดังนั้นเพื่อให้การจัดโต๊ะเป็นไปอย่างดีที่สุดตำแหน่งของโต๊ะต้องทำให้พนักงานเสริฟเดินใกล้ที่สุด นั่นคือเราต้องหาวิธีการคิดที่จะทำให้ระยะทางที่ไกลที่สุดสั้นที่สุด และระยะทางนั้นต้องเป็นบวกด้วย ยังไม่พอเราต้องมีการคิดด้วยว่าถ้าคำตอบได้ระยะทางที่ไม่ไกลมาก แต่มีหลาย ๆ อัน ก็น่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นต้องมีการชั่งน้ำหนักว่าผลรวมของระยะทางต้องไม่มากเกินไปหรือต้องน้อยที่สุด มาลองเขียนปัญหานี้ดู
ในกรณีนี้ เป็นค่าน้ำหนักว่าเราสนใจกรณีไหนมากกว่ากัน ส่วน เป็นโอกาสที่ลูกค้าจะเข้าถึงที่นั่ง ส่วนตัวแปรที่จะใช้ในการ minimize นั้นต้องคิดเอาเองนะครับ เพราะกรณีนี้ต้องมีโต๊ะที่คงที่กับโต๊ะที่เลือกวางได้ สมการของ ก็จะหลากหลายแตกต่างกันออกไป
อาจารย์คณิตศาสตร์อาจจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างโจทย์ปัญหาให้นักศึกษาแก้โดยมีสนามจริงให้พิสูจน์ นั่นคืออาจารย์ก็เล่น Restaurant City พอไปถึงสถานการณ์ที่คนเสริฟจำกัด 2 คน คนปรุงอาหาร 5 คน ร้านมีพื้นที่จำกัด (แน่หละสิ) ก็จะเกิดปัญหานี้ขึ้นพอดี ก็ให้นักศึกษาเข้าไปแก้ไข แล้วก็เปิดเว็บลองเล่นกันดูเลยว่าของใครดีกว่าใคร อนึ่งปัญหานี้มันไม่ convex คำตอบจึงไม่เป็นคำตอบเดียว นักศึกษาสามารถแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญหาแบบ convex หรือใช้วิธีการแบบ nonconvex แต่ไปแก้ปัญหาเรื่องค่าตั้งต้น หรือลดจำนวนตัวแปรเอา ก็น่าจะสนุกดี กรณีตัวอย่างนี้น่าสนุกเพราะโดยปกติปัญหาที่ยกขึ้นมาในวิชาต่าง ๆ มันเป็นตัวอย่างง่าย ๆ พิสูจน์ความเข้าใจได้ด้วยการพยักหน้า แต่แก้ไขสถานการณ์จริงไม่ได้ ครั้นจะลองกับปัญหาจริง ๆ ก็ไม่มีใครกล้าลงทุนลงแรง อย่างนี้น่าจะสนุกกว่า
สิ่งที่ต้องระวังอย่างเดียวคืออาจารย์กับลูกศิษย์จะไม่ทำอะไรนอกจากแข่งกันเล่นเกมโดยใช้คณิตศาสตร์เข้าช่วยหรือเปล่าก็เท่านั้น