ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

Archive for the ‘สังคม’ Category

ประเทศไทยขายอะไรให้ต่างประเทศ

leave a comment »

อ่านจากเว็บนี้ ประเทศไทยขายอะไร อ่านแล้วเศร้า เศร้าเพราะว่าสินค้าส่งออกหลักอันดับต้น (สามอันดับแรก) ของไทยนั้นไม่ใช่สินค้าเกษตรมาตั้งนานแล้ว (หนึ่งในนั้นคือ Harddisk ซึ่งมีการแจกโจทย์งานวิจัยให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยทำวิจัยมาหลายปีแล้ว)

ถ้าเศร้ายังไม่พอ ก็คงต้องบอกว่า ข้อมูลการนำเข้าและส่งออกของไทยนั้น หาได้ง่ายมาก ๆ จากเว็บของรัฐบาลที่มักโดนดูถูกว่าห่วย แต่ความจริงคือดูดีกว่าเว็บสื่อหลาย ๆ อัน ที่สำคัญข้อมูลนี้อยู่ในหน้าแรกและหาได้ง่ายมาก ๆ ไปดูได้ที่เว็บกระทรวงพาณิชย์ จะได้หูตาสว่าง

เลือกย้อนหลังไปซักสิบปีนะครับ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขียนอะไรน่ะไม่ว่าหรอกครับ แต่ค้นข้อมูลก่อนเขียนเพราะอ่านเด็กมัน เขียน blog ได้แต่ค้นข้อมูลไม่เป็นมันไร้สาระนะครับ เพราะเขียนกันเอาสนุกแล้วก็ให้มันฝังอยู่ในความเชื่อ แล้วก็เชื่อกันต่อ ๆ ไป โดยไม่ค้นข้อมูล นี่แหละตัวการสำคัญที่ทำให้ชาติหยุดนิ่ง

Written by tsvhh

สิงหาคม 1, 2009 at 9:32 am

เขียนใน ขำ, สังคม

ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก นะครับ ไม่ใช่ไข้หวัดหมู

leave a comment »

ไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก นะครับ ไม่ใช่ไข้หวัดหมู

งานนี้หมูรอดจากผู้ต้องหา นอกจากนั้นแล้วมันติดทางน้ำลาย ลมหายใจอะไรพวกนั้น ถึงไม่กินหมูก็ติดได้นะครับ อย่างไรก็ตาม ใครเป็นไข้หวัดที่มีอาการไอ หรือ จาม ก็ควรจะมีผ้าปิดปากเวลา ไอ หรือ จาม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคด้วยนะครับ

มันไม่ได้ร้ายแรง มันเป็นชนิดใหม่เลยยังไม่มียาแก้ ก็เท่านั้น

Written by tsvhh

เมษายน 29, 2009 at 8:53 am

เขียนใน สังคม

ระบบรหัสไปรษณีย์ของไทย

leave a comment »

ผมเกิดทันตอนเริ่มมีครั้งแรกนะครับ ตอนนั้นเพื่อกรมไปรษณีย์ การการส่งของให้ถึงที่หมายโดยละเอียดนั้น
บุรษไปรษณีย์ไม่มีปัญหาเพราะมีแผนที่ละเอียดขนาดนับเก้าได้เลย(เคยไปสำรวจตลาดกับบริษัทสำรวจ
ตลาดหาเงินใช้สมัยเรียนปีสอง) ได้ข่าวว่ากรุงเทพฯ กำลังจะเปลี่ยนระบบการระบุที่อยู่ให้เป็นสากลยิ่งขึ้น
เมื่อก่อนระบบนี้ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ตอนนี้มีปัญหาเพราะเทคโนโลยีพัฒนา เราต้องพัฒนาตามเทคโนโลยี
(เอ ชักงงว่าเทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น หรือเราต้องปรับชีวิตเราให้ง่ายขึ้นเพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยี)

เรื่องนี้ดูเหมือนง่าย ๆ ทำกันง่าย ๆ ที่จริงต้องเข้าใจว่ามันไม่ง่าย ถ้าจะทำเราต้องเปลี่ยนชื่อถนน ระบุชื่อ
ถนนอีกเยอะ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (แค่ตีเส้นแบ่งเขตแดนต่าง ๆ ก็ทำได้ยากยิ่ง) แต่ดูเหมือนคน
ทั่วไปจะไม่เข้าใจ คิดว่าง่าย ๆ แค่รัฐบาลตั้งใจทำแล้วจะทำได้

เอาให้เข้าใจกันง่าย ๆ ทำไมป้ายทะเบียนรถเราไม่ใช้แบบสากล เป็นตัวอักษรไทยเนี่ยแหละ ทำไมยัง
ใช้ระบบที่อ่านป้ายตัวใหญ่แล้วยังไม่รู้ว่ารถมาจากจังหวัดไหน ต้องมองดูตัวเล็ก ๆ อีก นี่ยังลามไปถึง
ว่าทำไมเราไม่สร้างรถยนต์ใช้เองเหมือนมาเลเซีย คำตอบมีครับแค่ดูจำนวนรถยนต์ต่อพันคนที่ใช้ใน
ประเทศ ปรากฎว่าจำนวนรถต่อประชากรพันคนเราน้อยกว่ามาเลเซียตั้งครึ่งหนึ่ง ทำไปก็ไม่คุ้มแน่นอน

ระบบบางอันที่คนทั่วไปเข้าใจว่าทำกันได้ง่าย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเอาเข้าจริง ๆ นั้นยากมาก ๆ ท้ายที่สุด
สิ่งที่ประเทศไทยขาดจริง ๆ ก็คือนักวิจัยทางคณิตศาสตร์ พวกนี้ต้องใช้หมดนะครับ การระบุชื่อถนน
การกำหนดเลขรหัสไปรษณีย์ จำเป็นต้องใช้นักคณิตศาสตร์มาช่วยคำนวณ รวมไปถึงการสร้างแบบ
จำลองเพื่อทดสอบต่าง ๆ สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามสร้างนักวิทยาศาสตร์พื้นฐานจำนวนมาก
ผ่านทางโครงการต่าง ๆ นั้นถูกต้องแล้วแต่เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลา การลงทุนเทคโนโลยีนั้นง่าย ไม่เห็น
ยากแค่ซื้อ จ้างคนดูแล มีเงินทำไมจะทำแบบดูไบไม่ได้

อย่ามัวบ่นว่า ที่นี่ประเทศไทย หรือประเทศไทยห่วย ต้องเข้าใจปัญหาด้วย ผมได้คำนวณไว้แล้วว่า
ประเทศไทยเจริญห่างจากเยอรมันเท่ากับจำนวนกุญแจที่ต่างกัน (ร้านกุญแจในเยอรมันมีกุญแจมาก
กว่าหมื่นแบบให้เลือก) แต่ใช่ว่า 100 ปีจะตามไม่ทัน ประเทศไทยยังไม่ผ่านยุคทองเลย 

Written by tsvhh

สิงหาคม 13, 2008 at 7:53 am

เขียนใน angel, สังคม

Tagged with

พระนครเหนือเป็นมหาวิทยาลัยแล้ว

leave a comment »

โอ้พึ่งรู้

แต่ http://www.kmitnb.ac.th น่าจะมีการแจ้งเตือนหน่อยเน้อว่าย้ายไป http://www.kmutnb.ac.th
ลาดกระบังหล่ะ เมื่อไหร่

Written by tsvhh

กรกฎาคม 29, 2008 at 9:43 am

เขียนใน สังคม

Tagged with

ระบบการสอบที่ผมเคยเจอ

leave a comment »

เนื่องจากผมเรียน ป.ตรีในเมืองไทย ป.โทที่อังกฤษ และกำลังเรียน ป. เอก ที่เยอรมัน ดังนั้นผมจึงผ่าน
ระบบการสอบในระดับ ป.ตรี และ ป.โท ของทั้งสามประเทศมา จึงนำมาเขียนสรุปซะหน่อย แต่เนื่อง
จากความแตกต่างนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับประเทศเท่านั้น แต่ยังขึ้นกับท้องที่ของแต่ละประเทศด้วย ดังนั้นจะ
เขียนเฉพาะเจาะจงลงไปกับสิ่งที่ได้เจอมาเท่านั้น

ระบบการสอบไทยที่เคยสัมผัส

ระบบการสอบของไทยถือได้ว่ามีความเป็นระบบมากที่สุด  มีหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดวัดสอบ
ห้องสอบ ที่นั่งสอบ และคนคุมสอบ ทำให้ความสับสนระหว่างนักศึกษา คนคุมสอบ อาจารย์ เจ้าหน้าที่
มีน้อย ผิดพลาดตรงไหนก็ตามไปตรงนั้นได้ ข้อเสียส่วนใหญ่ของระบบการสอบของไทยนั้นจะอยู่ที่
ตัวนักศึกษาเอง ซึ่งอัตราการทุจริตมีสูงมาก แต่เนื่องจากระบบประนีประนอมของไทยทำให้อาจารย์
ไม่กล้าที่จะลงโทษสถานหนักกับนักศึกษาเท่าไหร่ นักศึกษามีการทุจริตขนาดที่อาจารย์ต้องตามไป
ดูถึงห้องส้วม เพราะมีนักศึกษาที่จงใจโกงจำนวนหนึ่งเอาเฉลยไปใส่ไว้ในห้องส้วม แล้วผลัดเวียนกัน
ไปดูก็มี

การสอบของไทยจึงมีปัญหาที่ความซื่อสัตย์ไม่ใช่ที่ระบบ ถ้าจะให้ดีขึ้นควรมีการหยุดพักหลังจากเรียน
ก่อนการสอบ เท่าที่พบได้คือนักศึกษาบางกลุ่มอาจจะต้องเรียนวันนี้สอบพรุ่งนี้เลยก็มี

ระบบการประเมินข้อสอบของไทยค่อนข้างจะเป็นระบบ คือข้อสอบจะถูกประเมินจากภาควิชา การ
ให้คะแนนก็จะถูกประเมินจากคณะฯ ถ้าปฏิบัติได้เต็มที่ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ปัญหาคือเงื่อนของเวลา
ที่ค่อนข้างจำกัดมาก และอาจารย์แต่ละคนก็มีภาระการสอนค่อนข้างมาก  ครั้นจะใช้ระบบผู้ช่วยก็
จะพบได้บ่อยที่ผู้ช่วยสอนจะมีการโกงในหลาย ๆ รูปแบบให้กับนักศึกษาที่สนิทกัน

การแต่งกายเข้าสอบของเมืองไทยนั้นระดับ ป.ตรี ต้องแต่งชุดนักศึกษาเท่านั้น ระดับ ป.โท ให้แต่ง
กายสุภาพ และห้ามนำสิ่งของเข้าไปบริเวณสอบ ทั้งนี้และทั้งนั้นประเทศเราถือว่านักศึกษาระดับ ป.ตรี
ยังเป็นนักศึกษาที่ยังไม่โต

 

ระบบการสอบของอังกฤษที่เจอ

เนื่องจากสอบในฐานะผู้เรียนจึงไม่ได้รู้ระบบเท่าไหร่ ที่นี่คล้ายกับเมืองไทย คือมีตารางสอบที่ชัดเจน
มีสมุดคำตอบที่สวยงาม นอกจากนั้นยังมีการป้องกันอาจารย์มีสัมพันธ์ลึกซื้งกับนักศึกษาด้วยการที่
นักศึกษาสามารถปิดชื่อตัวเองไม่ให้คนตรวจเห็นได้

สิ่งที่ต้องพูดถึงคือเรื่องของเครื่องคิดเลข ที่สถาบันที่ผมเคยไปเรียนนั้นออกกฏเครื่องคิดเลขให้ใช้
ได้รุ่นเดียวยี่ห้อเดียว และเป็นรุ่นที่มีราคาถูก  เคยปรึกษากับอาจารย์ที่เมืองไทยปรากฎว่าระบบนี้ใช้
กับมหาวิทยาลัยของรัฐในไทยไม่ได้ เพราะจะถูกมองว่าฮั้วกับบริษัทขายเครื่องคิดเลข ซึ่งเป็นข้อหา
หนักอยู่เหมือนกัน และระบบดังกล่าวถ้านำมาใช้ในเยอรมันก็ยิ่งไม่ได้เลยเพราะขัดต่อเรื่องของเสรี
ภาพ

สำหรับข้อสอบที่ผมเคยเจอนั้นค่อนข้างจะดี คือนักศึกษามีสิทธิเลือกทำเฉพาะส่วนที่ตัวเองทำได้เช่น
มีข้อสอบสามข้อเลือกทำแค่สองข้อ หรือมีห้าโมดุลเลือกทำแค่สามโมดุล

ส่วนเรื่องการทุจริตในประเทศนี้นั้นไม่รู้ข้อมูล  ส่วนการแต่งกายนั้นตามใจสมัครและถ้าจำไม่ผิดคือ
ห้ามนำสิ่งของที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณสอบ

 

ระบบการสอบของเยอรมันที่เจอ

ระบบการสอบของเยอรมันเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับคนจัดการมาก ๆ ถ้าเทียบกันก็ถือว่าล้าหลังที่อื่น
เอามาก ๆ การสอบของเยอรมันนั้นไม่มีส่วนกลาง ส่วนกลางมีหน้าที่แค่จองห้อง ส่วนการจัดสอบนั้น
เป็นหน้าที่ของผู้สอน

ก่อนอื่นพูดได้เลยว่าการสอบของเยอรมันนั้นไม่มีระบบ แม้กระทั่งกระดาษคำตอบก็ยังต้องเอามา
เอง ศาสตราจารย์ที่นี่มีหน้าที่สอนแค่นั้น ผู้ออกข้อสอบ ประเมินข้อสอบ ตรวจข้อสอบ คือนักศึกษา
ปริญญาเอก ทั้งแบบได้เงินและไม่ได้เงินเดือน

นักศึกษาของที่นี่คือพระเจ้า กล่าวคือทุกวิชาที่นี่จะเปิดสอบสองครั้งในหนึ่งปี ถึงแม้จะมีการสอน
แค่ครั้งเดียวก็ตาม ถ้าจำนวนนักศึกษาน้อย ศาสตราจารย์จะใช้วิธีสอบแบบปากเปล่า ถ้าเยอะจะใช้
วิธีสอบข้อเขียน สำหรับการสอบข้อเขียนนั้น นักศึกษาสามารถจะลงชื่อสอบได้ถึงเวลาเข้าสอบเลย
และถอนชื่อสอบได้หรือจะไม่เข้าสอบเอาดื้อ ๆ ก็ได้  ในขณะที่สอบปากเปล่าจะขอเปลี่ยนวัน เลื่อน
วัน ยกเลิกการสอบก็ทำได้ง่าย ๆ แค่ส่งอีเมลให้เลขาฯ ศาสตราจารย์เป็นอันจบ

มาดูการสอบข้อเขียน เด็กที่นี่สามารถนำอะไรเข้าห้องสอบก็ได้ เพียงแต่ต้องปิดมือถือ และไม่วาง
สิ่งอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องบนโต๊ะสอบ ส่วนกล้วย น้ำ ขนม ข้าวห่อ อื่น ๆ เอาเข้ามาไว้ข้างตัวได้หมด
และจะกินตอนไหนก็ได้  กระดาษคำตอบนั้นเด็กจะต้องเอามาเอง พอหมดเวลาคนคุมสอบก็จะต้อง
เอาที่เย็บกระดาษไปเย็บกระดาษคำตอบด้วย

ที่แย่มาก ๆ คือ การสอบจะเริ่มก็ต่อเมื่อคนคุมสอบเห็นว่านักศึกษาทุกคนพร้อมจะสอบ กว่าที่นักศึกษา
จะพร้อมก็เล่นเอาคนคุมสอบเหนื่อย เพราะที่นี่ไม่มีระบบที่นั่งสอบ มาก่อนได้ก่อน และเป็นการยากที่
จะจัดห้องสอบรองรับนักศึกษาได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นรหัสประจำตัวนักศึกษาก็มั่วมาก
เพราะนักศึกษามีอิสระในการเลือกลงวิชา จะลงเทอมไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เลือกสอบข้ามมหาวิทยาลัย
ยังได้เลย ขอให้บอกมหาวิทยาลัยต้องทำตามนักศึกษา

ที่ภาควิชาฯ สองสามปีก่อนเกิดปัญหากับการเย็บกระดาษ เลยปรับปรุงให้มีกระดาษคำตอบเฉพาะ
ให้นักศึกษาขึ้น (เลขาฯ จะเป็นคนเข้าเล่มกระดาษคำตอบ) และพึ่งเริ่มมีการจัดระบบที่นั่งสอบมาใช้
เพราะห้องและจำนวนคนไม่พอ ดังนั้นต้องใช้ห้องให้เต็มประสิทธิภาพ

การออกข้อสอบและตรวจข้อสอบข้อเขียนนั้นค่อนข้างจะมีระบบที่ดี เพราะเริ่มจากศาสตราจารย์คิด
หัวข้อเอาไปให้นักศึกษาปริญญาเอกคิดรายละเอียด ทำเฉลย จากนั้นก็จะมีการทดลองทำข้อสอบ
โดยนักศึกษาป.เอกอีกกลุ่มหนึ่ง มีการประเมินและแก้ไขใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสอบสุดท้าย
การตรวจก็จะมีการวางแผนการให้คะแนน ว่าทำอะไรตรงไหนจะได้กี่คะแนน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี  แต่
ต้องไม่ลืมนะครับว่าศาสตราจารย์เป็นแค่ผู้สอนและผู้ประเมินสุดท้ายเท่านั้น

ความเป็นพระเจ้าของนักศึกษาที่นี่ยังมีอีก คือนักศึกษาสามารถขอดูการตรวจข้อสอบได้หนึ่งครั้ง
ถ้าไม่เห็นด้วยกับการตรวจก็สามารถเถียงเพื่อเอาคะแนนเพิ่มได้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็สามารถส่งเรื่อง
ไปให้ศาสตราจารย์ได้ โดยส่วนใหญ่ศาสตราจารย์จะยอม เพราะถ้าไม่ยอมนักศึกษาจะฟ้องขั้นสูง
ต่อไปอีก นอกจากนั้นยังมีระบบในข้อเดียวกันผิดแล้วหักคะแนนแล้วจะหักซ้ำไม่ได้ ยกตัวอย่างถ้า
1.ก ผิด 1.ข ทำผิดแบบ 1.ก แต่ที่เหลือถูกหมด ข้อ 1.ข จะต้องได้เต็ม ซึ่งมีปัญหามากโดยเฉพาะ
ข้อสอบที่ต้องวาดรูป

นักศึกษามีสิทธิสอบแต่ละวิชาได้สี่ครั้ง คือสอบข้อเขียนได้ 3 ครั้ง ถ้าตก (ไม่มีการบันทึกการตกใน
ใบรายงานผลการศึกษา) อีกก็จะเข้าสอบปากเปล่าถือประเมินว่ามีความรู้หรือไม่ คือถ้าตกอีก
นักศึกษาคนนั้นจะถูกประเมินว่าไม่สามารถเรียนสาขาวิชานั้น ๆ ได้อีกต่อไปในประเทศเยอรมัน

มาถึงการสอบปากเปล่า การสอบปากเปล่าก็มีหลายระบบ สอบทีละกลุ่มสามคนก็มี สอบทีละคนก็มี
ใช้คอมพิวเตอร์สอบด้วยก็มี การสอบแต่ละครั้งกินเวลาประมาณ 30 นาที และคะแนนก็ให้กันหลัง
สอนในทันที การสอบจะมีนักศึกษา ป.เอก นั่งบันทึกการสอบและมีส่วนตัดสินใจเรื่องคะแนน ดู
เหมือนจะยุติธรรมดี แต่จริง ๆ แล้วการสอบแบบนี้ขึ้นกับอารมณ์ผู้ถามมาก ๆ เพราะบางครั้งถาม
คำถามยากขึ้นก่อน นักศึกษาก็จะลงนรกทันที นอกจากนั้นบางคนตอบผิด ตอบช้า คนถามก็จะ
ต้องแนะนำจนมั่นใจว่าไอ้นี้มันไม่รู้จริง ๆ บางทีนักศึกษาคิดนานทำให้เสียเวลาและถามคำถามได้
ไม่ครอบคลุมอีก แถมบางการการสอบของแต่ละคนห่างกันเป็นเดือนก็มี (ระบบนี้ถ้านำมาใช้เมือง
ไทย คนหลัง ๆ เต็มหมด)

สิ่งที่เยอรมันอยู่ได้และเจริญก็เพราะว่า นักศึกษาจะไม่คิดจะทุจริต การโกงการสอบถือเป็นเรื่อง
แปลกมาก ๆ ในเยอรมัน ซึ่งนักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเป็นผู้ช่วยสอน ช่วยออกข้อสอบ จะซึมซับ
เรื่องพวกนี้ไปโดยไม่รู้ตัว

สรุปเยอรมันโกงน้อยมาก ๆ ทำให้ระบบการสอบไม่ต้องมี เพราะระบบการสอบส่วนใหญ่คิดขึ้นมา
เพื่อลดโอกาสในการโกง

โอยยาว จบดื้อ ๆ แล้วกัน

Written by tsvhh

กรกฎาคม 22, 2008 at 12:02 pm

เขียนใน สังคม

Tagged with

ผลการแข่งขัน Thailand Interlligent Vehicle Chalenge

leave a comment »

นักศึกษาไที มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงทะลุรบสุดท้ายแข่งขันสร้างรถัจฉริยะชิงแชมป์ประเทศพลิกล็อกถล่มทลาย เมื่อที่หนึ่งคือทีม Arrive จากแม่ฟ้า
หลวง ในขณะที่ AIT และบางมดได้ที่ 2, 3 เหมือนเดิม
ในขณะที่ตัวเต็งแชมป์เก่าอย่างจุฬาฯ ทำได้แค่ที่สี่ (สงสัยคนน้อยส่งแข่งหลายรายการ)

การแข่งขันแบบนี้หลายที่อเมริกานั้นตื่นตัวกันมาก ในขณะ
ที่เยอรมันก็เริ่ม ๆ แล้ว (มีทีมไปร่วมแข่งที่อเมริกาด้วย Urban Challenge) ทีของอเมริกานั้นมีบริษัทเอกชนให้
เงินสนับสนุนมากมาย อาจจะมีคนถามว่าทำไม แค่ต้องการ
สร้างรถยนต์ไร้คนขับแค่นั้นเหรอ คงไม่ใช่

การแข่งขันแบบนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีครับ อย่างในสาขาระบบควบคุมนั้นดูเหมือนจะโดดเด่นที่สุด ซึ่งก็คือ
เรื่อง Control formation ซึ่งเป็นเรื่องของการควบคุมโดยใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์ คาดว่าการแข่งขันในระดับเมืองไทยยังพึ่งเริ่มต้น การใช้เทคโนโลยีวิจัยขั้นสูงคงยังไม่ได้ถูกรวมเข้าไป ของเรา ๆ แค่เงิน
สนับสนุนให้ตลอดรอดฝั่งก็ยังคงเป็นโจทย์เบื้องต้นอยู่  ซึ่งตรงนี้ประเทศเราก็ต้องค่อย ๆ ปรับปรุงไปเรื่อย ๆ

Urban Challenge Logo

และโจทย์ในการแข่งขันนั้นก็ยังอยู่ที่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก

ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นบริษัทเอกชนสัญชาติไทยเข้าไปจับจอง
เทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยแล้วผลิตออกมาจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีให้เห็น
เยอะแล้วพอสมควรในเรื่องของอาหารพวกของอบแห้งที่แพร่หลายอยู่
ในตอนนี้ เอาใจช่วย

 

Written by tsvhh

มิถุนายน 10, 2008 at 7:31 am

เขียนใน สังคม, blog

Tagged with ,

รักนี้ต้องข่มขืน

leave a comment »

www.teenpath.net

ผมว่าบทความนี้ตลก ถ้าเขียนว่าข่มขืนด้วยความรัก มันจะเป็นไปได้อย่างไรไม่มีทางหรอก ถ้าข่มขืนนั้นจะ
ต้องบาดเจ็บ

อย่างฉาก ข่มขืนของละครบางเรื่องกลายเป็นจุดหักเหจากที่พระเอกนางเอกไม่ชอบหน้ากัน
มีความแค้นต่อกัน ก็หันมาเริ่มใส่ใจ ห่วงใยความรู้สึกกัน สุดท้ายเมื่อพระเอกสำนึกผิด นาง
เอกอดทน เข้าอกเข้าใจ ให้โอกาสคนทำผิดพลาดแก้ตัว ทุกอย่างก็แฮปปี้เอนดิ้ง

ไอ้ย่อหน้าข้างบนนี้มันไม่จริงทั้งในแง่ของละครและชีวิตจริงครับ ถ้านางเอกไม่มีใจให้พระเอกแล้วแมวที่
ไหนจะยอมให้ข่มขืนโดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย  นางเอกที่โดนข่มขืนบางคนเป็นพยาบาลนะครับ

เรื่องเอาความคิดเด็กมาอ้างแล้วสรุปผมว่ามันไร้สาระนะ เพราะละครหลังข่าวมันไม่ใครจะให้เด็กได้ดูเนื่อง
จากมันดึก อยากให้เด็กฉลาดก็ดูช่อง 11 ไป มีแต่รายการดี ๆ ให้ความรู้ เรื่องนี้ก็คือผู้ใหญ่ด่าละคร แต่ก็
ดูเพราะมันสนุก แต่ตัวเองดูก็เลยยอมให้เด็กก็ดูด้วย คราวนี้ก็เลยหาแพะ ยอมรับเถอะครับว่าสาเหตุมันไม่
ได้อยู่ที่ละคร

ที่น่าตกใจคือพวกต่อต้านการเซ็นเซอร์หนังกับออกมาสนับสนุนคนพวกนี้ว่าคิดถูก

Written by tsvhh

พฤษภาคม 21, 2008 at 10:20 am

เขียนใน ขำ, สังคม

Macbook AIR and Tablet PC

leave a comment »

เพื่อนใช้ Fujitsu Life Book (Tablet PC) มาเป็นปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร CPU ก็เร็วปีที่ซื้อถือว่า
เร็วที่สุดแล้ว (2.0 GHz) น้ำหนักก็ไม่ถึงสองกิโลดี ใช้งานก็หลากหลาย เครื่องก็เล็ก ราคา
ก็ $1,9xxx ใช้งานแทน desktop ได้เลย (อาจจะซื้อจอมาเพิ่มเป็นจอที่สอง) แถมเขียนหน้าจอ
ได้อีกเวลาไปนำเสนอผลงาน

ในขณะที่ MBA และเครื่องแบบบางทั้งหลาย ไม่ว่าของ Levono Sony ทำอะไรได้น้อยกว่า
มาก เพราะออกแบบมาให้บาง กินไฟน้อย แต่ราคาพอกัน น้ำหนักอาจจะเบากว่ากันครึ่งกิโล
(มากเหรอ)

มีให้ซื้อกันทำไมเนี่ย ปิดท้ายด้วยวีดิโอขำ ๆ (ขำโคตร)

หมายเหตุ Tablet PC ไม่เคยเห็นวางขายในห้างในเยอรมันเลย

Written by tsvhh

พฤษภาคม 6, 2008 at 3:42 pm

เขียนใน สังคม, Evil

Macbook AIR and Tablet PC

leave a comment »

เพื่อนใช้ Fujitsu Life Book (Tablet PC) มาเป็นปีแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร CPU ก็เร็วปีที่ซื้อถือว่าเร็วที่
สุดแล้ว (2.0 GHz) น้ำหนักก็ไม่ถึงสองกิโลดี ใช้งานก็หลากหลาย เครื่องก็เล็ก ราคาก็ $1,9xxx ใช้งาน
แทน desktop ได้เลย (อาจจะซื้อจอมาเพิ่มเป็นจอที่สอง) แถมเขียนหน้าจอได้อีกเวลาไปนำเสนอผล
งาน

ในขณะที่ MBA และเครื่องแบบบางทั้งหลาย ไม่ว่าของ Levono Sony ทำอะไรได้น้อยกว่ามาก เพราะ
ออกแบบมาให้บาง กินไฟน้อย แต่ราคาพอกัน น้ำหนักอาจจะเบากว่ากันครึ่งกิโล (มากเหรอ)

มีให้ซื้อกันทำไมเนี่ย จบด้วยวีดิโอขำ ๆ อันนี้ (ขำโคตร)

 

หมายเหตุ Tablet PC ไม่เคยเห็นวางขายในห้างในเยอรมันเลย

Written by tsvhh

พฤษภาคม 6, 2008 at 3:39 pm

เขียนใน สังคม, blog

Tagged with ,

ชาวบ้านคลิตี้ ชนะคดีฟ้อง ‘กรมควบคุมมลพิษ’

leave a comment »

เรื่องนี้เคยลงในหนังสือสารคดีเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นก็ได้อ่านแล้วรู้สึกว่าชาวบ้านนั้นชะตาชีวิต
มืดมนจริง ๆ

ชาวบ้านคลิตี้ ชนะคดีฟ้อง ‘กรมควบคุมมลพิษ’ ศาลปค.สั่งชดเชยรายละกว่า 3 หมื่น
ข่าวจากมติชน หนังสือพิมพ์ดีแต่บ้าโหรไปหน่อย

ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับข่าว เคยบอกไปแล้วว่าเมืองไทยอั้นความเจริญไว้ไม่อยู่แล้ว ทุกด้าน สิ่งที่
ผมติดใจ และชื่นชอบในคำตอบของเขามาก

ด้านนายยะเสอะกล่าวว่า ดีใจที่ชนะคดี แต่ไม่รู้ว่า คพ.จะอุทธรณ์หรือไม่ ไม่อยากให้
อุทธรณ์ เพราะเวลานี้ ชาวบ้านก็ยังดื่มน้ำและหาอาหารจากลำห้วยไม่ได้ ต้องซื้อน้ำ
ขวด และซื้อกับข้าวจากรถกับข้าวที่พ่อค้าจากในเมืองไปขาย เมื่อถามว่า คิดว่าค่าชด
เชยที่ได้คุ้มหรือไม่ที่ต่อสู้มา 4 ปี นายยะเสอะกล่าวว่า ‘ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ชาวบ้านไม่ได้
กินอะไรมากมาย ตั้งใจว่าถ้า คพ.อุทธรณ์ก็จะเอาเงินทั้งหมดไปตั้งเป็นกองทุนดูแล
เรื่องสุขภาพและอาชีพชาวบ้านคลิตี้ทั้งหมด

อ่านแล้วคิดเอาเอง

Written by tsvhh

พฤษภาคม 6, 2008 at 1:33 pm

เขียนใน สังคม, blog

Tagged with