ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

Posts Tagged ‘เที่ยว

West Germany – Luxemburg -Belgium Trip – ตอนที่ 2

with 5 comments

จากตอนที่แล้ว

สาเหตุของการไปเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้มีสาเหตุอะไร เป็นเป็นการไปเที่ยวประจำต้นปีของครอบครัวเรา
ซึ่งโดยปกติแล้วครอบครัวเราจะไปเที่ยวกันปีละสองครั้งคือต้นปีกับปลายปี ต้นปีส่วนใหญ่จะเป็น
การไปเที่ยวใกล้ ๆ และไม่ได้จริงจังอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการไปเที่ยวเพื่อเยี่ยมเยือน หรือเที่ยว
วันหยุดยาว ๆ แบบอีสเตอร์เท่านั้นเอง และก็เหมือนทุกต้นปีที่เราจะมีเวลาเตรียมตัวไม่มาก เรียก
ว่าตัดสินใจได้ก็ไปเลย และเพื่อให้การเดินทางประหยัดยิ่งขึ้นเราได้ซื้อตั๋ว Tchibo Ticket เตรียม
ไว้  ซึ่งตั๋วนี้ทำให้เราประหยัดเดินทางทั่วประเทศเยอรมันได้ในราคาเพียงเที่ยวละ 29 ยูโร และค่อน
ข้างจะสะดวกสบาย เพราะวันเดินทางผู้ใช้จะ็สามารถเขียนจุดหมายปลายทางก่อนขึ้นรถได้เลย ไม่
ต้องจองตั๋วเลือกเที่ยวให้ลำบาก อยากขึ้นคันไหนเวลาไหนก็ขึ้นเลย ขอแค่เขียนปลายทางให้ชัดเจน
เป็นพอ แต่ต้องระวังนะครับตั๋วนี้ถ้าเขียน ๆ ลบ ๆ ก็จะโดนหาว่าเจตนาโกง โดยปรับแน่นอน

เราเริ่มต้นการเดินทางออกจากฮัมบวร์กประมาณ 10 โมงเช้าโดยรถไฟ IC ไปยัง Düsseldorf เป็นอันดับ
แรก ซึ่งเราเลือกเวลาและทำเวลาได้ดี  นอกจากรถว่างมาก ๆ แล้วเวลายังไม่แน่นจนต้องรีบอะไร

เมื่อถึง Düsseldorf เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเมืองนี้เลย รู้แค่ว่าเวลาไปอังกฤษต้องขอวีซาที่นี่เท่านั้นกับ
รู้ว่าเมืองนี้เป็นเมือง Outlet สถานีรถไฟและสายรถไฟฟ้าใต้ดินไม่ได้คุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนที่ฮัมบวร์ก กว่า
จะเลือกสายเลือกเที่ยวก็ต้องโทรถามน้องเทนตลอด (ระบบตั๋วในเยอรมันต้องซื้อตั๋วให้ดี เพราะมันจะทำ
ให้ประหยัดเงินไปได้เยอะ) หลังจากที่เข้าพักที่โรงแรมบ้านน้องเทน แล้วพักทานน้ำขนมจนหายเหนื่อย เรา
ก็รอจนเจ้าตัวเล็กคุ้นเคยกับสถานที่และเข้าที่เข้าทาง จากนั้นเราก็ตรงรี่ไปยัง Outlet หาของถูกจนเป็นที่
พอใจแล้วก็กลับเข้ามาที่ ๆ พัก มาเจอกับน้องแซนโดยวัตถุประสงค์หลักคือให้น้องแซนพาไปเลี้ยงอาหาร
เกาหลีตามที่ถูกบีบคอให้สัญญาไว้ ข้อมูลควรรู้อีกอย่างของ Düsseldorf ก็คือเมืองนี้มีคนญี่ปุ่นอยู่เยอะ
ซึ่งไม่เกี่ยวกับร้านอาหารเกาหลีที่เราจะไปกินกัน

คนซ้ายคือน้องเทนผู้ให้ที่พักพิง คนขวาคือน้องแซนผู้ยินดีเลี้ยงอาหารเกาหลี ครอบครัวเราก็โชคดีอย่างนี้
แหละ

การไปพักกับเพื่อน ๆ นั้น สิ่งที่คุณต้องเตรียมไปก็คือเครื่องนอน เพื่อไม่ให้ขาดไม่ให้เหลือก็ควรจะตรวจ
สอบกับเจ้าของบ้านก่อนว่ามีเครื่องนอนให้หรือเปล่า งวดนี้เนื่องจากไปพักบ้านน้องเทนกันถึงสี่คน ไม่มี
ทางที่เจ้าของบ้านจะมีเครื่องนอนให้พออยู่แล้ว ก่อนเดินทางเราก็จำเป็นต้องซื้อถุงนอนอย่างดีราคาตั้ง
89 ยูโร แต่เราซื้อในราคาลดแล้วลดอีกเหลือแค่ 10 ยูโรเท่านั้น แรก ๆ ก็ไม่ค่อยจะถูกใจเท่าไหร่ เพราะ
มันทั้งหนาทั้งหนัก แต่พอเอามาใช้งานจริงจังมันเยี่ยมมากเลยครับ น้องเทนนอกจากจะมีที่ให้พักพิงแล้ว
ยังลงทุนซื้อเตียงใหม่จาก IKEA ไว้รับแขกอีกด้วย งานนี้แขกไม่ได้ช่วยต่อเตียงแต่ได้ช่วยต่อโต๊ะกินข้าว
ให้

หลังจากพักผ่อนนอนหลับกันจนอิ่มเมื่อคืนแล้ว เราก็ออกเที่ยวโดยเป้าหมายก็คือเที่ยว Düsseldorf และ
เมืองใกล้ ๆ ที่ผมขอร้องให้ไปให้ได้คือผมจะไปนั่ง Schwebebahn ที่เมือง Wuppertal ดังที่ได้กล่าว
ไปแล้วในตอนที่หนึ่ง ดังนั้นวันนี้เราจึงเที่ยว Düsseldorf ในช่วงเช้านิดเดียวเท่านั้น ไว้ตอนเย็นจะกลับมา
เที่ยวใหม่

Düsseldorf ในสายตาผมแล้วก็คือไม่มีอะไรให้เที่ยวนั้น แต่น่าอยู่สงบเงียบและมีธรรมชาติที่สวยงาม
เมืองสองฝั่งแม่น้ำไรน์ถ้าอากาศดีไม่ได้หนาวสะท้านอย่างวันที่ไป ก็จะเป็นสถานที่ที่น่านั่งเล่นพักผ่อนเป็น
อย่างยิ่ง

Düsseldorf ยังมีการจัดการแข่งขันตีลังกาประจำทุกปี และก็มีถนนบาร์ที่นับรวมกันทุกซอกซอยแล้วยาวที่
สุดในโลกอีกด้วย

จากนั้นเราก็เคลื่อนทัพไปยังเมือง Wuppertal เมืองในเขต North Rhine-Westphalia เมืองที่จริง ๆ
แล้วมีจุดเด่นแค่ รถ monorail แบบแขวนและวิ่งเหนือ Wupper river 12 เมตรเท่านั้นเอง แต่จริง ๆ
ก็มีอะไรพอให้เที่ยวบ้างเช่น พิพิธภัณฑ์นาฬิกา ซึ่งวันที่ไปมันปิดก็เลยไม่ได้เข้าไปดู

หลังจากเดินสำรวจทั่วตัวเมืองแล้วเราก็ออกเดินทางด้วยการโดยสารรถไฟฟ้าที่แขวนเหนือน้ำ 12 เมตร โดย
ตัวสถานีมีหน้าตาแบบนี้

ทุกอย่างก็เหมือนสถานีรถไฟฟ้าทั่วไปในเยอรมัน ซึ่งมีทั้งบนดิน ใต้ดิน ลอยฟ้า ต่างกันแต่ว่ารถไฟฟ้าที่เมือง
นี้มันลอยมา

ภายในรถก็เหมือนรถไฟฟ้าทั่ว ๆ ไปอีกนั่นแหละ ต่างกันตรงที่ว่ามันแกว่งตลอดทาง ยิ่งเวลาเข้าโค้งแล้วหล่ะ
ก็ คนขับจะเข้าโค้งแบบมันสุด ๆ เหมือนหนึ่งว่ากำลังนั่งรถไฟฟ้าในสวนสนุกทีเดียว และที่ตื่นเต้นมากก็ตอน
ที่เข้าโค้งแล้วพวกเรามองออกไปนอกหน้าต่าง ตัวรถที่อยู่เหนือแม่น้ำวิ่งด้วยความเร็วสูงพร้อมกลับแกว่งไป
แกว่งมา เป็นที่น่าหวาดเสียวต่อผู้ที่มาใหม่ยิ่งนัก ในขณะที่ผู้คนเมืองนี้ทำหน้าเบื่อ ๆ เพราะพวกเขาต้องนั่ง
รถที่ว่าไปไหนต่อไหนกันทุกวันอยู่แล้ว คงนึกในใจว่าไอ้พวกนี้มันมาตื่นเต้นอะไรกัน

ภาพข้างล่างแสดงให้เห็นรางรถไฟที่อยู่ข้างบน และช่วงเลี้ยวโค้งที่จะเห็นได้ว่าโค้งมาก ๆ

สนุกที่สุดเห็นจะเป็นคนนี้ ก่อนจากก็ขอยืนเท่ ๆ ถ่ายรูปซะหน่อย

รถแขวนนี้ ผู้มาเยือนสามารถใช้ตั๋วรัฐ ตั๋วสุดสัปดาห์ ขึ้นได้โดยไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม เพราะว่ามันเป็นรถ
โดยสารปกติจริง ๆ การนั่งรถไฟที่เมืองนี้ทำให้นึกถึงคำพูดของใครบางคนที่เคยหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม ฯ
ว่าจะทำรถรางเรียบคลองแสนแสบ แล้วก็มีคนแย้งว่าต้องทำแบบที่เมือง Wuppertal นี่ แต่สุดท้ายไม่ว่า
ใครจะได้เป็น การสร้างจริง ๆ ก็ขึ้นกับรัฐบาลสมัยนั้น ๆ ด้วย ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

จริง ๆ เราวางแผนจะไปเที่ยวเมืองอื่นใกล้ ๆ แต่ติดด้วยอากาสที่แย่มาก ๆ นอกจากหนาวแล้วยังมืดคลึ้ม ก็
เลยตกลงใจพากันกลับมาที่ Düsseldorf เมืองที่น่าชม น่าอยู่ แต่ไม่มีอะไรให้เที่ยว เขาก็เลยทำอะไรให้
น่าจดจำหลายอย่างอยู่เช่น หอสูงที่ต้องเสียเงินขึ้นเลยไม่ขึ้น

ตึกรูปทรงแปลก ๆ ที่หาดูได้ยากเหมือนกัน อย่างตึกที่มีรูปทรงบูดเบี้ยว

ตึกที่มีรูปทรงประหลาด แปลก ๆ บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน

ขณะที่เราดูตึกไปนั้นลมแรงและอุณหภูมิต่ำมาก ๆ ทำให้ไม่ได้พินิจพิจารณาอะไรมากนัก สามารถเรียกได้ว่า
มาเที่ยวเพื่อดูเป็นบุญตาเท่านั้น และถ้าไม่รีบกลับที่พักก็อาจจะได้ใ้ช้ผลบุญในเวลาไม่นาน

ขากลับเราตัดสินใจเดินกลับ เพื่อที่จะได้ผ่านวิวสวย ๆ ของเมือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเห็นได้ทั่วไป
ตามหนังสือท่องเที่ยว

ถ้าเดินรอบ ๆ เมือง Düsseldorf ก็จะรู้สึกได้นะครับว่าจะพบเห็นต้นไม้หน้าตาอย่างรูปข้างล่างอยู่เต็มไป
หมด ได้ความจากน้องเทนว่าเคยมีผู้ว่าการเมืองคนหนึ่งเอามาปลูกไว้เนื่องจากมีความชอบเป็นพิเศษ ก็เลย
เห็นต้นไม้แบบนี้ได้ทั่วไปหมด

จริง ๆ Düsseldorf เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและน่าอยู่ เป็นเมืองที่มีสิ่งน่าสนใจเยอะ สะอาดเรียบร้อยและ
สวยงาม (แต่ไม่มีอะไรให้เที่ยว) เป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อจักรยานที่สุดในเยอรมัน และอีกมากมาย (หาอ่าน
ได้ตามหนังสือท่องเที่ยวทั่วไป) เสียดายที่เราไม่ได้สนใจมากนัก เพราะเป้าหมายหลักของการมาที่นี่ก็คือ
มาเยี่ยมน้องเทน และเก็บภาพถ่ายกับความทรงจำที่ดีเท่านั้น

เช้าวันพรุ่งนี้เราจะต้องย้ายเมืองแล้ว มีเรื่องราวมากมายที่เราจะต้องเจอะเจอในการเดินทางผ่านสามประเทศ
ในหนึ่งวันในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เมืองหลวงของยุโรป Brussel นั่น
เอง

Read the rest of this entry »

Written by tsvhh

เมษายน 26, 2008 at 9:34 pm

เขียนใน เที่ยว

Tagged with , ,

Free Video Flip and Rotate

leave a comment »

วันก่อนไปดูกายกรรมไต่ลวดมาก หนึ่ง

62 Meter Hochmast mit lebender Fahne

อันที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดเห็นจะเป็นอันนี้ The highest sway pole ตัวจริง ๆ คนจริง ๆ ไม่รู้กล้าเล่น
ได้อย่างไร เรื่องของเรื่องคือได้ถ่ายวีดิโอจากกล้องดิจิตอลเก็บเอาไว้อวดชาวบ้านที่ไม่ได้ไปดูด้วย
ปัญหาคือต้องการถ่ายมุมสูง แล้วก็ลืมทุกทีว่ากล้องพวกนี้มันใช้แนวตั้งถ่ายวีดิโอไม่ได้ กลับมาบ้านก็
เศร้าสิครับ นึกได้ว่ามันน่าจะมีโปรแกรมกลับวีดิโอให้โดยอัตโนมัติ เกือบจนแต้มเหมือนกันเพราะไม่
มีโปรแกรมฟรี ๆ ดี ๆ ให้หาได้ตอนที่ต้องการเลย แต่ในที่สุดก็หาของฟรีถูกกฎหมายได้ และทำได้
ตามที่ต้องการด้วย

rotate video, flip video

ก็โปรแกรมตัวนี้แหละครับ เล็กดีแล้วก็ใช้งานง่ายจนไม่รู้จะทำให้ง่ายกว่าอย่างไรสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
ที่ต้องการเพียงแค่หมุนวีดิโอเก้าสิบองศา ถ้ามีปัญหาเหมือนก็ไปโหลดมาใช้นะครับ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้อง
กลัวเผลออีกแล้ว

Written by tsvhh

เมษายน 8, 2008 at 2:18 pm

เขียนใน เที่ยว, blog, software

Tagged with , ,

West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 1

with 5 comments

หลังจากไปงาน CeBIT 2008 มาแล้ว ใครรอเรื่องปารีสอยู่ก็รอไปก่อน อ่านของเก่าไปพลาง ๆ
ก่อนก็ได้

วันที่ไปเที่ยวงาน CeBIT นั้นเป็นวันอาทิตย์ พอวันจันทร์ผมก็ต้องรีบปั่นเอกสารเพื่อส่งไปงาน
ประชุมวิชาการ และอาทิตย์นั้นก็ไม่ว่างอีกเลย ทำให้หน้าที่ในการจัดการเป็นของภรรยาไปโดย
ปริยาย และที่พลาดก็คือคราวนี้เราไม่มีหนังสือนำเที่ยว นอกจากนั้นจำนวนเงินเพื่อใช้ในการเที่ยว
ก็จำกัดยิ่งนัก สิ่งที่พลาดมากที่สุดในการเที่ยวครั้งนี้ก็คือ เราอยู่เยอรมันนานไปแล้ว

การไปเที่ยวนั้น การวางแผนถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะข้อจำกัดเรื่องเวลาและเงินนั้น
จะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ยิ่งเรามีลูกตัวน้อยวัยซน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเที่ยวตามใจลูกด้วย
นอกจากนั้นการเที่ยวในยุโรปในวันหยุดยาว ดูจะเป็นเรื่องหวาดเสียวพอสมควรเพราะถ้าไม่ระวัง
ร้านรวงต่าง ๆ จะปิดกันหมด

เงื่อนไขในการไปเที่ยวครั้งนี้สำหรับผมก็คือ

1. ผมจะไปนั่ง Schwebebahn ที่เมือง Wuppertal สิ่งมหัศจรรย์ที่หาได้ที่เดียวใน
เยอรมัน

The Schwebebahn Wuppertal crossing an intersection

รูปจาก Schwebebahn Wuppertal – Wikipedia

2. ผมอยากจะไป Luxemberg เพื่อเก็บกลุ่มประเทศ BeNeLuX ให้หมดในคราวนี้ เพราะ
เราเคยไปเนเธอร์แลนด์กันมาแล้ว ทำให้ค่ารถไฟเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทีเดียว

3. ที่ Brussel คงไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจไปกว่าไอ้นี่อีกแล้ว

Atomium-sm.jpg

รูปจาก AtomiumWikipedia

ส่วน Dom โบสถ์ที่สูงที่สุดในโลกนั้น ผมอยากไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้เป็น the must สำหรับผม
อาจจะเป็นเพราะมันใกล้ก็ได้

การเที่ยวหนนี้เรานอนที่ Düsseldorf สองคืนที่โรงแรมของเพื่อน (friend’s hotel) และที่
Brussel อีกสองคืนที่โรงแรมชื่อเดียวกัน การเที่ยวหนนี้ไม่เน้นกินเพราะสู้ราคาไม่ไหว อย่างที่
Brussel นั้นค่าหอยเลี่ยน ๆ หม้อตั้ง 22 ยูโร เทียบได้กับหนึ่งอิ่มพร้อมหอยทากสุดอร่อยที่ปารีสแล้ว
บอกได้คำเดียวว่าไม่เอาดีกว่า น้องที่พักด้วยกันบอกว่าไปซื้อมาทำเองกิโลแค่ 6 ยูโรเท่านั้น เข้าเตา
อบทำน้ำจิ้มทะเลกินเองอร่อยกว่าสิบเท่า

Read the rest of this entry »

Written by tsvhh

เมษายน 5, 2008 at 9:59 am

เที่ยวงาน CeBIT 2008 ภาคสอง

with 3 comments

จากตอนที่แล้ว

การไปเที่ยวงานนิทรรศการหรืองานแสดงสินค้ากับเด็กเล็ก ๆ อย่างเจ้านีรนั้น พ่อแม่ต้องทำใจไว้ก่อนว่าจะได้
ดูอะไรไม่ได้มากนัก พวกเราเองก็มีประสบการณ์หลายครั้งหลายหนแล้ว ดังนั้นถ้าพ่อดูแม่ก็ต้องคอยวิ่งไล่ลูก
ในทางกลับกันถ้าแม่อยากดูพ่อก็ต้องวิ่งไล่ลูก โชคดีอยู่หน่อยที่งานนี้มีสาว ๆ คอยบริการเจ้านีรอยู่เป็นระยะ ๆ

ซึ่งนอกจากสาว ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาแล้วเราก็ต้องสลับให้เจ้านีรเล่นเกมบ้างเป็นระยะ ๆ

อย่างในรูปข้างบนเจ้านีรก็กำลังสนุกอยู่กับการเล่น memory บนจอ LCD ขนาดยักษ์ แต่เล่นได้ไม่นาน
เพราะว่าเจ้าหน้าที่เริ่มทยอมเก็บของแล้ว ซึ่งรวมไปถึงเก็บเจ้าจอนี่ด้วย

งานนี้สินค้าที่ฮิตมาก ๆ เห็นจะเป็นเครื่อง Navigator ที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ ในยุโรป ขนาดที่รถหนึ่ง
คันจะต้องมีเจ้าเครื่องนี้หนึ่งเครื่อง และที่ผ่านมาก็มีการโจรกรรมโดยการทุกกระจกรถเพื่อเอาเจ้าเครื่องนี้
กันอยู่บ่อย ๆ

จะเห็นได้ว่าตัวสินค้านั้นเป็นที่สนใจมาก ๆ

จากส่วนแสดงสินค้าด้านการสื่อสาร เราก็ข้ามฟากมายังอุปกรณ์ประกอบสินค้าเทคโนโลยีจำพวก มือถือ
Notebook ฯลฯ ในส่วนนี้นอกจากจะมีการแสดงสินค้าแล้ว ยังขายของอีกด้วย ทำให้โซนนี้เป็นโซนที่ผู้ชม
ทั่วไปให้ความสนใจมาก ๆ ไม่แพ้เครื่อง Navigator ทั้งนี้และทั้งนั้นนอกจากสินค้าที่ซื้อได้ก็ยังมีการนำ
เสนอสินค้าแบบน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย และจุดเด่นที่สุดของการโซนนี้ก็คือการแสดงอุปกรณ์ถุงยางป้องกันน้ำ
สำหรับมือถือ โดยเน้นแนวคิดที่ว่าเราสามารถว่ายน้ำได้พร้อม ๆ กับพกมือถือไปด้วย

ในรูปสาวน้อย (น้อยทั้งอายุและ …) กำลังสาธิตวิธีการใช้ถุงยาง(ใส่มือถือ)ให้ผู้คน(มีแต่ผู้ชาย)รอบข้างได้
เข้าใจถึงวิธีการใช้งานและประสิทธิภาพ โดยเธอพยายามแสดงให้เห็นว่าไม่มีทางที่ถุงยางนี้จะรั่วและน้ำใน
อ่างก็ไม่มีทางที่จะซึมเข้าไปทำลายมือถือได้ เราได้รับแจกไอ้ถุงยางที่ว่านี่มาด้วยหนึ่งอัน แต่ไม่รู้หายไป
ไหนแล้ว เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้ไม่นานนัก คุณคงรู้ว่าเพราะอะไร

จากอ่างน้ำเราก็ข้ามไปยังโซนเกม ซึ่งทำให้รู้ได้เลยว่าตลาดเกมนั้นใหญ่มาก ๆ เต็มไปด้วยสาวกและผู้คลั่ง
ไคล้เกมคอมพิวเตอร์

ในรูปจะเห็นได้ว่าบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่กำลังแสดงความสนใจการนำเสนอเกมต่าง ๆ อย่างใจจดใจจ่อ
หรือพูดง่าย ๆ ว่าตาไม่กระพริบ (ในยุโรปนั้นการเล่นเกมจะต้องซื้อแผ่นเกมราคาหลายพัน ก็น่าจะนึกภาพของ
จำนวนเงินได้) นอกจากนั้นยังมีการแข่งขันฟุตบอลสนามใหญ่ด้วย

และก็มีเทนนิส นี่เล่นกันในร่มส่วนลูกเทนนิสนั้นมีไว้แจก

เหมาะกับคนที่มีที่ว่างในบ้านแล้วอยากออกกำลังกายโดยไม่ต้องตากแดด ใครเคยเล่น Wii จะรู้นะครับว่าเกม
นี้สนุกมาก ๆ

หลุดจากเกม ก็ออกมาด้านนอกซึ่งมี pavilion ใหญ่ ๆ หลายอัน เช่นของ Vodafone Intel ฯลฯ ซึ่งฝั่ง
ของ Intel นั้นมีการแสดงแพร่กระจายอยู่ทั้งงาน ในส่วนของ pavilion ก็จะเป็นเกม มีคอมพิวเตอร์มาแสดง
บ้าง แต่เน้นที่ชิพเป็นหลัก ก็ตามถุงกระดาษนั้นแหละ “IT starts with the chip” ที่เห็นเอา F1 มาตั้ง
เป็นทิวแถวด้านล่างนั้น ก็ต้องการจะโปรโมต Intel Core 2 นะ

ใน Pavilion ของ Intel ก็มีการนำเสนอเกมให้สาวกดูด้วย ตั้งใจดูกันน่าดูเลย นี่ระหว่างนั่งคอยนะครับ

ไม่แน่ใจว่าพิธีกรจะใช้คนเดียวกับที่เห็นกันบ่อย ๆ ในทีวีหรือเปล่า

จบจาก Intel ก็ต้องเดินทางกลับเพราะใกล้เวลานัดกับเพื่อนแล้ว เราต้องเผื่อไวเวลาไว้ประมาณหนึ่งชั่วโมง
เพื่อหาอาหารสำหรับคนจนกินรองท้อง จะได้ไม่ต้องทนหิวบนรถไฟที่จะต้องเดินทางอีกประมาณสองชั่วโมง
และนี่มันวันอาทิตย์กับถึง Hamburg ไม่มีอะไรขายแน่นอน

ร้าน McDonald’s อาหารขวัญใจคนจนเปิดทุกวัน แต่เสียดายที่ทุกอย่าง 1 ยูโร ขายหมดไปแล้ว เลย
ต้องกินเป็นชุดแพงขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ยังดีที่ห้องน้ำฟรี (ค่าเข้าห้องน้ำในเยอรมันมีตั้งแต่ ฟรีไปจนถึง 1.1
ยูโร บางที่ก็แล้วแต่สมัครใจ ทำเป็นเดินไม่รู้ไม่ชี้ก็ฟรีได้)

เป็นอันจบงาน CeBIT 2008 งานที่ตั้งใจมาเพื่อให้ได้ชื่อว่ามาเท่านั้นเอง แต่ก็ได้อะไรบ้างหล่ะนะ

Written by tsvhh

มีนาคม 29, 2008 at 10:47 am

เขียนใน เที่ยว, technology

Tagged with , ,