ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 5 หอไอเฟล

with 3 comments

อ่านตอนก่อนหน้าได้ที่

  1. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 1 ก่อนออกเดินทาง
  2. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 2 กระเป๋า
  3. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 3 สนามบิน
  4. เที่ยวปารีสกับเจ้าตัวน้อยห้าวันห้าคืน ตอนที่ 4 รถเมล์กับโรงแรม

สายลมอ่อน ๆ พัดพาละอองฝนเม็ดเล็กมาปะทะใบหน้าของพวกเราอยู่ตลอดเวลา ความหนาวเหน็บ
ในช่วงฤดูที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างฤดูใบไม้ผลิเดือนพฤษภาคมนี้ สร้างปัญหาให้กับนักเดินทาง
เป็นอย่างมาก อาทิตย์ก่อนหน้ายุโรปยังร้อนราวกับฤดูร้อนในกรุงเทพฯ แต่นะเวลานี้อุณหภูมิมิเคย
จะก้าวให้พ้นเลขสิบห้า แม่น้องนีรบ่นอุบกับความไม่แน่นอนนี้ เพราะเธอเตรียมตัวที่จะมาอยู่ภายใต้
แสงแดดและความอบอุ่นอันงดงามในปารีส ในขณะที่ผมไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ตลอดห้าวันผม
จึงมีเพียงเสื้อแจ็คเก็ตบาง ๆ เพียงตัวเดียวสำหรับการเที่ยวตะลอนตลอดห้าวัน แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้
เตรียมตัวเตรียมรับสภาพไว้แล้วก็คือ การเติบโตของน้องนีร ทุกครั้งที่เราพาน้องนีรเที่ยวไปยัง
สถานที่แปลกใหม่ เขาจะตื่นตาตื่นตัวและโตขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ และครั้งนี้เด็กน้อยก็ไม่พลาด
ที่จะทำให้เราประหลาดใจอีกครั้ง

ผมรับหน้าที่ดูแลกระเป๋าสตางค์ ในขณะที่เอกสารสำคัญต่าง ๆ ถูกเก็บไว้อย่างดีในห้องพักของ
โรงแรมที่มีบริการตู้นิรภัยขนาดย่อมไว้ให้ ส่วนแม่น้องนีรรับหน้าที่เข็นรถเข็นและได้นำหน้าไปไกล
แล้ว เพื่อนน้อยทำหน้าที่นำทางและแนะนำสิ่งต่าง ๆ ที่ควรรู้ และที่แรกที่เราจะไปกันก็คือหอไอเฟล

หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน และวันนี้ก็เป็น
สัมผัสแรกของครอบครัวเราต่อรถไฟใต้ดินที่ได้ชื่อว่าเก่าแก่
ที่สุดในโลก สถานี Porte de La Chapelle นับได้ว่าเป็น
สถานีปลายทาง ที่รถไฟใต้ดินสายสิบสองจะมาสิ้นสุดที่นี่ ถึง
แม้จะเป็นสถานีใหญ่แต่ทางขึ้นลงก็แคบและไม่มีบันไดเลื่อน
เราต้องช่วยกันยกรถเข็นซึ่งบรรทุกเจ้าตัวน้อยแต่หนักลงไป
สู่ใต้ดินที่มีแสงเพียงสลัว ๆ เมื่อถึงเขตที่กั้นคนไม่มีตั๋วไม่ให้
ผ่านเข้าไปขึ้นรถไฟใต้ดิน เราก็พบกับปัญหาแรก รถเข็นใหญ่
เกินไปไม่สามารถเข็นผ่านช่องไปได้ ทั้งยัดทั้งดันช่องที่
เหมือนว่าจะไปได้แต่มันก็ไปไม่ได้ มีชาวปารีสพยายามบอก
เราว่าให้ไปติดต่อเจ้าหน้าที่อีกด้านหนึ่งที่ห่างออกไปและอยู่
คนละชั้น ด้วยความไม่เข้าใจวิธีการเท่าไหร่นัก เราก็เลยใช้วิธียก
รถเข็นข้ามไปเลย โดยให้คนอีกฝั่งขวางแผงกั้นด้านบนเอาไว้และคอยรับรถอีกฝั่ง ซึ่งก็ผ่านไป
ได้ด้วยดีแต่ไม่น่าดูนัก เมื่อผ่านประตูไปได้ ก็ต้องยกเจ้าตัวน้อยลงบันไดไปอีกขั้น ก่อนที่พวก
เราจะพากันไปนั่งหอบอยู่บนรถไฟสีเขียวสายสิบสอง ซึ่งบ่ายแก่ ๆ วันเสาร์ผู้คนไม่มากนัก มีที่
ว่างพอให้ผู้ใหญ่สามคนนั่งพักเหนื่อยได้อย่างสบาย ถึงตรงนี้สองสาวเพื่อนซี้ก็นั่งปรึกษาเส้น
ทางรวมถึงสถานีแรกที่จะลงด้วย ในช่วงเวลาดังกล่าวผมก็เลยใช้พักผ่อนไปในตัว และดูเหมือน
ว่าจะนั่งหลับ

จุดแรกที่เราจะไปนั้นคือ Palais de Chaillot เมื่อถึงสถานที่ดังกล่าว ด้วยความใหญ่โตทำให้
เราหามันไม่เจอ ทั้ง ๆ ที่เรากำลังยืนอยู่ตรงนั้น และมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าคือหอไอเฟล หอโลหะตั้ง
สูงตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มีผู้คนมากหน้าหลายตาหลายเชื้อชาติพยายามที่จะเก็บภาพประทับใจ
นั้นไว้ในแผ่นพลาสติกเล็ก ๆ ที่ภายในเต็มไปด้วยทรายที่ผ่านกรรมวิธีบางอย่างแล้ว ตรงจุดนี้เอง
ที่เราได้เห็นความน่าสะพรึงกลัวภายใต้ความสวยงาม ขณะที่เรา ผม เพื่อนน้อย และเจ้าตัวเล็ก
กำลังบรรจงถ่ายภาพแม่ของเจ้าน้องนีรอยู่นั้น รอบข้างก็เต็มไปด้วยนักขายผิวสีเข้ม พยายาม
เสนอขายของที่ระลึกในรูปแบบต่าง ๆ ในราคาที่ลดแหลกแจกแถม ทันทีที่แสดงความสนใจ
เพียงแค่การชายตามอง ฝูงมนุษย์ก็ตรงรี่เข้ามาเสนอขายสิ่งของที่ไม่อยากซื้อในทันที กว่าที่จะ
ได้รูปและฝ่าฝูงนักขายมาได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยเลย พวกเราเลยตัดสินใจหนีออกจากบริเวณนั้น
ให้เร็วที่สุด ระยะทางจาก Palais de Chaillot ไปยังหอไอเฟลนั่นไม่ไกลนัก แต่ก็เต็มไปด้วย
ผู้คนและสิ่งสวยงาม และแล้วเจ้าตัวน้อยก็ได้เห็นสิ่งที่เขาเสาะหามานาน

สิ่งที่น้องนีรมองเห็นแต่ไกลนั้น มันคือม้าหมุน ม้าที่ไม่น่าพิศมัยเลยสำหรับผู้ใหญ่แต่เป็นม้าใน
ดวงใจของน้องนีร ระยะทางกว่าร้อยเมตรถูกร่นเวลาลงด้วยขาน้อย ๆ สองข้าง ที่เลื่อนสลับกัน
ไปตามจังหวะที่โหยหาของหัวใจดวงเล็ก และเงินสองยูโรก็ล่องลอยออกจากกระเป๋าพ่อของเขา
อย่างรวดเร็ว แม่น้องนีรก็ได้ทำหน้าที่แม่ที่แสนดีอีกครั้ง โดยการสละสาวไปเป็นเด็กอีกครั้งก็
เพื่อความปลอดภัยของลูกนั่นเอง คนเป็นพ่อก็ได้แต่ยืนหัวเราะอยู่ข้างล่าง ยังดีที่น้องนีรเป็น
เด็กที่รู้จักพอ รอบเดียวก็ถือว่าเต็มอิ่มในวันนั้น และยอมทำหน้าที่ลูกที่ดีเดินนำหน้าพ่อแม่ไปสู่
หอไอเฟล ต่อไป

หลายคนอาจจะคิดว่าเมื่อถึงหอไอเฟล แล้วก็ควรจะขึ้นไปข้างบน แต่สำหรับเราแล้วมันเป็นเรื่อง
ที่เกินกำลัง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าน้องนีร หรือแถวที่ต่อยาวเหยียด ที่ดูเหมือนว่าเวลาจะถูกหยุดไว้
แถวก็เลยมีระยะคงที่ เราจึงใช้เวลากับหอไอเฟล แค่ข้างล่าง และระยะที่ห่างออกไป ที่ฝรั่งเศส
คงมีเหตุให้ต้องกลัวการก่อการร้ายพอสมควร นอกจากถังขยะโปร่งใสแล้วยังมีทหารติดอาวุธ
คอยดูแลรักษาความสงบอยู่โดยรอบ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปืนกลขนาดกลางจะทำอะไรผู้ก่อการ
ท่ากลางฝูงชนได้ เมื่อเต็มอิ่มใต้หอไอเฟลแล้วพวกเราก็เดินไปยังสนามหญ้าข้างหลัง พร้อมกับ
ควักหมูทอดออกมาป้อนน้องนีรที่กำลังขะมักเขม้นกับการถ่ายภาพ ส่วนผู้ใหญ่ที่เหลือก็แสดง
อาการเหนื่อยล้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อได้เวลาเราก็พากันย้ายก้นไปยังที่ใหม่ ๆ บ้าง เป้าหมายเราคือประตูชัยนั่นเอง ระหว่างทาง
น้องนีรก็ได้ถึงปารีสเป็นคนแรก โดยเหยียบกับระเบิดเข้าอย่างจัง คงนึกภาพกันออกนะครับว่า
พ่อของเขาที่ต้องเช็ดอุจจาระสุนัขออกจากรองเท้าลูกมันเป็นอย่างไร ด้วยความอ่อน
ประสบการณ์และขาดอุปกรณ์ การแคะอึออกจากรองเท้าลูกจึงไม่หมดในทีเดียว การเดินทาง
จากหอไอเฟลไปยังประตูชัยนั้นไกลโขอยู่ กว่าจะถึงเราได้เจอเหตุการณ์หลายหลากทั้งน่าตื่น
เต้นและน่าประทับใจ ไว้จะเล่าให้ฟังตอนหน้า

Written by tsvhh

มิถุนายน 5, 2007 ที่ 10:49 am

เขียนใน ปาีรีส, เที่ยว

3 Responses

Subscribe to comments with RSS.

  1. Plan to go there next month for 4 days. Can you share your infos about how to go to Notre Dome ? Thanks.

    Jane

    มิถุนายน 16, 2007 at 12:20 pm

  2. ชอบค่ะ ได้ความรู้ดี ตั้งใจจะลองไปดูบ้าง เมย นี้ ขอบคุณนะคะ

    prim

    พฤศจิกายน 17, 2011 at 5:43 am


ใส่ความเห็น