ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

Archive for สิงหาคม 2008

West Germany – Luxemburg – Belgium Trip — ตอนที่ 7

with one comment

มาติดตามการท่องเที่ยวของเราสามพ่อแม่ลูกยังต่างแดนกันต่อ  ตอนนี้ให้ชื่อว่าฟ้าสวยที่หนาวเหน็บ
ใครยังไม่เคยอ่าน ก็อ่านตอนเก่า ๆ ได้ตาม ลิงค์ข้างล่าง

  1. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 6
  2. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 5
  3. West Germany – Luxemberg – Belgium Trip – ตอนที่ 4
  4. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 3
  5. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 2
  6. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 1

หลังจากที่วางแผนกันเมื่อคืน  โดยการบังคับของผมคือต้องไป Atomium ให้ได้ เพราะใครมาที่นี่แล้ว
ไม่ได้เยี่ยมชมสิ่งนี้ก็ต้องกลับมาใหม่ ไม่น่าเชื่อว่า Atomium จะถูกสร้างไว้ตั้งแต่ปี 1958

มุมถ่ายรูปโหล ๆ ที่แขกไปใครมาก็ต้องถ่ายรูปนี้

ปกติถ้าใครมากับทัวร์ เขาก็คงจัดให้มาเยี่ยมชมที่นี่ เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ของ Brussels  แต่ถ้า
ใครมาเที่ยวบ้านน้องปูปลาก็ง่ายมาก แค่ขึ้นรถรางสายที่มาบ้านเธอ แล้วก็ไปนั่งต่อไปจนสุดสายซึ่ง
ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีจากบ้านน้องปูปลา ไม่น่าเชื่อที่ปูปลาอยู่มาเป็นปีแต่ไม่เคยมาที่นี่เลย

จุดหมายน่าตื่นเต้นแต่เส้นทางผ่านก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะมีสถานที่พอเที่ยวได้อยู่เต็มตลอดสอง
ข้างทาง พอใกล้จุดหมายผมก็เริ่มนั่งไม่ติดก้น ไม่ใช่ปวดอึหรือปวดฉี่ เพราะด้วยขนาดของ Atomium นั้น ถึงตอนนี้เราควรจะได้เห็นมันแล้ว แต่นี่ยังไม่เห็นเลย หรือว่ามันเล็กมาก

พอใกล้จะถึง เราก็ได้เห็นศิลปะข้างถนนที่งามตายาวหลายสิบเมตร ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นศิลปะ
ข้างถนน พอรถรางเลี้ยวออกจากอุโมงค์ที่มีศิลปะข้างถนนนี้เราก็จะได้เห็น Atomium ที่ตั้งเด่นอยู่
พอรถผ่านหน้า Atomium ผมก็จะเตรียมลงแต่รถก็เลยไปอีกไกลใจหวิวเล็กน้อย เพราะเวลาเราไม่
ค่อยมี แต่แล้วรถก็ไปจอดป้ายสุดทาง สุดทางที่เต็มไปด้วยสถานที่ปลายทาง ทั้ง Atomium ทั้ง
สวนสนุก

เมื่อถึงที่หมาย สิ่งที่ภรรยาผมกลัวก็คือกลัวน้องแซนจะไม่อยากมา เพราะดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ผม
อยากดูแต่ไม่รู้ว่าคนอื่น ๆ อยากดูหรือเปล่า ปรากฎว่าน้องแซนกลับดูเริงร่าผิดปกติ จากสภาพ
สาวเงียบที่ดูไม่ออกมาคิดอะไรอยู่ เธอกลับตื่นเต้นควักกล้องออกมาถ่ายรูปแทบจะทันทีที่นึกออก
(ปกติแล้วเธอจะไม่ค่อยแสดงท่าทางอยากถ่ายรูปนัก) นอกจากนั้นวันนี้เป็นวันฟ้าใส หลังจากที่
อากาศแย่ ๆ มาตลอดการเดินทาง

ภาพของสิ่งก่อสร้างรูปร่างแปลก ซึ่งไม่บอกก็ต้องรู้ว่าคนออกแบบชอบโครงสร้างอะตอม ถ้าดูจาก
ขนาดของลูกบอลสีเงินกลมขนาดใหญ่ที่ภายในบรรจุห้องแสดงศิลปะต่าง ๆ แล้ว ก็น่าจะนับเป็นสิ่ง
ที่น่าตื่นตาตื่นใจได้อย่างมากทีเดียว โดยเฉพาะมันสร้างมาแล้วห้าสิบปี

เราไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะว่าค่าเข้านั้นแพงไม่ใช่น้อย และเวลาก็ไม่เอื้ออำนวยให้เราอยู่ในตัว
อะตอมได้นานจนคุ้มค่าเข้า ดังนั้นก็ไม่เข้าแล้วไปถ่ายรูปโดยรอบแทน (ของที่ระลึกก็ไม่ซื้อเพราะ
แพงจริง ๆ)

ขนาดใกล้ ๆ เทียบกับคน จะเห็นได้ว่ามันมีขนาดใหญ่มาก ๆ

อีกด้านหนึ่งของ Atomium

เราใช้เวลาอยู่กับ Atomium ราวชั่วโมงกว่า แล้วก็นั่งรถรางสายเดียวกันกลับไปที่บ้านของน้อง
ปูปลาเพื่อจัดเก็บข้าวของก่อนเดินทางต่อไป

เมื่อวานเราพยายามหาทางไปจตุรัสกลางเมืองของ Brussels กันเองแต่ต้องคว้าน้ำเปล่าเพราะ
ไปไม่ถูก วันนี้น้องปูปลาพาเดินจากสถานีรถไฟไปนิดเดียวก็โผล่ที่จุดหมาย ซึ่งจุดหมายแรกก็
คือถนนช็อปปิ้งที่มีหลังคาแห่งแรกในยุโรป

จริง ๆ มันก็ไม่มีอะไรหรอกนะ แต่มีหลังคาครอบตึก เราเลยไม่เข้าไปข้างในแค่ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
เท่านั้น จากนั้นเราก็เดินไปเรื่อย ๆ แบบสบายอารมณ์เพราะเจ้านีรหลับ ที่สบายอารมณ์เพราะไม่ต้อง
คอยกลัวลูกหาย ว่าแล้วก็เลยชวนคุณแม่ถ่ายรูปกับรูปปั้นคนนี้ซะหน่อย (เข้าใจว่าที่ยุโรปการสร้าง
รูปปั้นโลหะไว้ตามสวนสาธารณะนั้น เป็นเรื่องที่กระทำกันเป็นปกติ) เห็นคนถ่ายรูปกับรูปปั้นนี้กันเยอะ
พอคนว่างก็จัดให้คุณแม่ถ่ายด้วยซะเลย

กว่าจะถ่ายรูปนี้ได้ต้องคะยั้นคะยออยู่นาน

ขณะเดินนั้นอากาศยังดีอยู่ แต่มีแววว่าหิมะจะตกเหมือนกัน เราไม่ได้รีบจ้ำกันซะเท่าไหร่เพราะ
มีเวลาเหลือเฟือ เดินไปอีกนิดก็เจอ

เราทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี คือเก็บไว้แต่ภาพถ่ายเท่านั้น ความรูปประกอบไม่ได้เก็บไปด้วย
ไม่รู้จะเก็บไปทำไมเหมือนกัน แต่ก็รู้ว่านี่คือจตุรัสกลางเมือง

ซึ่งสวยงามทีเดียว รายละเอียดเยอะแยะไปหมด เป็นอันว่าเราได้ทำสิ่งที่สองของการเที่ยวเมืองใน
ยุโรปแล้วคือ สถานีรถไฟ โบสถ์ใหญ่หรือจัตุรัสกลางเมือง ที่เหลือคือกินอาหารพื้นเมือง แต่ช้าก่อน
เราไม่ไปกินหอยแมงภู่อบให้เปลืองเงินหรอกนะ กลุ่มของเราสรุปว่ากินหอยสำคัญที่น้ำจิ้ม และที่
บ้านเราหมายถึงที่เยอรมันก็หากินได้แล้วกินมาแล้ว ดังนั้นเราก็ต้องกินไอ้นี่แก้หิวที่ร้านที่ดังที่สุด
ใน Brussels ไอ้ที่ว่าคือ Waffle เนื้อแน่นแนวเบลเยี่ยมเขา และร้านนี้แหละดังที่สุด

น้องปูปลาเล่าว่าปกติไม่ได้กินหรอกนะ คนต่อแถวยาวมาก เผอิญวันนี้ท่านนีรมาคนก็เลยหลบ
ให้ พวกเราเลือกแบบที่มีผลไม้เยอะ ๆ ราคาก็ 4 ยูโร คิดเป็นเงินไทยก็ใจหายคือสองร้อย

คุณแม่น้อยนีรทำสิ่งที่น้อยคนนักจะได้ทำ คือกิน Waffle ท่ามหิมะที่ตกลงมาอย่างหนัก

ช่วงนี้เองที่เจ้านีรตื่น และไม่ยอมกิน Waffle ผู้พ่อก็ต้องบากหน้าไปซื้อไอศครีมที่อร่อยที่สุดในร้าน
เค้าให้เจ้าหมาน้อยอีก จากนั้นเราก็พากันตากหิมะไปหาเจ้าเด็กยืนฉี่ที่ดังที่สุดในโลก

การเดินทางไปหาเด็กฉี่ก็แค่เดินตรงไปจากร้านขาย Waffle ที่ดังที่สุดใน Brussels พอผ่าน
มุมตึกเราก็จะเห็นรูปปั้นเล็ก ๆ ที่เล็กจริง ๆ เป็นเด็กจับจู๋ยืนฉี่อยู่ แล้วเราก็ได้ทำในสิ่งที่น้อยคน
จะได้ทำอีกแล้วคือ

ถ่ายรูปหิมะ โดยมีสามสาวเป็นฉากหลังหน้าเด็กยืนฉี่ พอถ่ายเสร็จทุกคนก็รีบวิ่งไปหาที่หลบความ
หนาว โดยการเข้าไปยังร้านขายของที่ระลึก แล้วก็จัดแจงซื้อของที่ระลึกเพื่อฝากคนอื่นให้ครบ แต่
เราก็ไม่ลืมที่จะซื้อจานเล็ก ๆ ซึ่งเราสะสม ตอนนี้มีหลายอันแล้ว ใครไปใครมาถ้านึกได้ก็ซื้อจานมา
ฝากด้วยเน้อ

พอซื้อของเสร็จก็ได้เวลาต้องรีบจ้ำเดินทางไปสถานีรถไฟตามแผนที่วางไว้ ซึ่งขากลับนี้คุณแม่เดิน
นำตลอด ในขณะที่คุณพ่อก็ช้าอีกตามเคย

ตอนต่อไปจะเป็นตอนจบ ซึ่งมีเรื่องให้ตื่นเต้นมาก ๆ เป็นเรื่องที่ทำให้เราไม่มีใครกล้าหลับบนรถไฟ
เลย คอยติดตามนะครับ

อ่านต่อตอนจบ

West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนจบ

Written by tsvhh

สิงหาคม 21, 2008 at 9:04 am

เขียนใน angel, เที่ยว

Tagged with

Oympic 2008 กับเยอรมัน

leave a comment »

ตอนที่เริ่มแข่งขันไปได้สามวันนั้น ไทยได้หนึ่งเหรียญทองแล้ว แต่เยอรมันยังไม่เห็นแวว ถาม
เพื่อนเยอรมันข้าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเยอรมันในตอนเช้า “They are suck” นี่คือคำตอบที่ได้
พอตกบ่ายเพื่อนวิ่งมาบอกว่า เราได้สามเหรียญทองแล้ว จากกีฬาถนัดของพวกเขานั่งเอง
ขี่ม้า เรือคานู และยูโด?

พูดถึงกีฬาคราวนี้ จีนน่าจะได้เจ้าเหรียญทองไปแบบไม่ยาก โดยที่ได้เป็นกอบเป็นกำก็จากยก
น้ำหนัก และกีฬาประเภทใช้ความสวยงามกับความพร้อมเพรียง ได้ดูหลายการแข่งขันแล้วพบว่า
ชาติอื่น ๆ นั้นสู้ไม่ได้เลย เรียกได้ว่าห่างชั้นก็ว่าได้ โดยเฉพาะกระโดดน้ำชายคู่ ที่คู่แข่งนั้นแข่งกัน
ที่เหรียญเงิน อเมริกาก็คงถอดใจเรื่องนี้ไปแล้ว ที่น่าขำ ESPN จัดอันดับเหรียญรวมแทนที่จะเป็น
เหรียญทอง ทำให้ตอนนี้อเมริกายังนำเจ้าเหรียญทั้งหมดอยู่ น่าอายจริง ๆ โดยส่วนตัวแล้วเกลียด
จีนนะครับ แต่เกลียดอเมริกามากกว่า ไม่รู้ไง นักกีฬาอเมริกาดูภูมิใจในสถานภาพของตัวเองเกินไป
ส่วนนักกีฬาจีนได้เหรียญทองไป ทำให้ผมนึกถึงเด็กจำนวนหลายพันที่หมดอนาคตเพราะเก่งไม่พอ

เมื่อวานน้องนีรได้เปิดโอกาสให้พ่อเขาดูข่าวบ้าง ดูไปดูมาไปเจอข่าวนักกีฬาหญิงของเยอรมันที่ชื่อ
Britta Heidemann (บีทท่า ไฮเดอร์มานน์) เท่าที่ดูเธอสวย พูดภาษาจีนได้ คนจีนชอบมาก และ
เป็นนักกีฬาฟันดาบที่ได้เหรียญทอง มาค้นประวัติดูหน่อยปรากฎว่าเธอดังมาก ๆ เพราะเธอจะเป็น
หนึ่งในสี่นักกีฬาหญิงของเยอรมันที่จะได้ลงในหนังสือ PlayBoy ของเยอรมัน และได้ลงหน้าปกที่
จะมีถึงสี่แบบด้วยกัน กล่าวได้ว่าอย่างน้อย ๆ เธอก็จะเป็นหนึ่งปกที่ได้รับการสะสมแล้ว เพราะได้
เหรียญทอง ต้องมานั่งลุ้นกับอีกสามคนที่เหลือว่าจะได้หรือไม่ นักกีฬาที่เหลือคือ เรือใบ คานู
และยูโด พวกเธอหุ่นดีนั้นแน่นอน และก็แขนไม่ใหญ่

ถ้าทั้งสีได้เหรียญกันหมด โอลิมปิกคราวหน้าตาลายแน่ ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ นักกีฬาชาวยุโรป อีก
เรื่องหนึ่งคืออีกสิบยี่สิบปีข้างหน้าชื่อ Britta จะโหลหนักแน่นอนในเยอรมันเพราะชื่อนี้ได้สอง
สองเหรียญทองแล้วจากฟันดาบและว่ายน้ำ

Written by tsvhh

สิงหาคม 15, 2008 at 8:14 am

เขียนใน ขำ, Evil

Tagged with ,

ระบบรหัสไปรษณีย์ของไทย

leave a comment »

ผมเกิดทันตอนเริ่มมีครั้งแรกนะครับ ตอนนั้นเพื่อกรมไปรษณีย์ การการส่งของให้ถึงที่หมายโดยละเอียดนั้น
บุรษไปรษณีย์ไม่มีปัญหาเพราะมีแผนที่ละเอียดขนาดนับเก้าได้เลย(เคยไปสำรวจตลาดกับบริษัทสำรวจ
ตลาดหาเงินใช้สมัยเรียนปีสอง) ได้ข่าวว่ากรุงเทพฯ กำลังจะเปลี่ยนระบบการระบุที่อยู่ให้เป็นสากลยิ่งขึ้น
เมื่อก่อนระบบนี้ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ตอนนี้มีปัญหาเพราะเทคโนโลยีพัฒนา เราต้องพัฒนาตามเทคโนโลยี
(เอ ชักงงว่าเทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น หรือเราต้องปรับชีวิตเราให้ง่ายขึ้นเพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยี)

เรื่องนี้ดูเหมือนง่าย ๆ ทำกันง่าย ๆ ที่จริงต้องเข้าใจว่ามันไม่ง่าย ถ้าจะทำเราต้องเปลี่ยนชื่อถนน ระบุชื่อ
ถนนอีกเยอะ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย (แค่ตีเส้นแบ่งเขตแดนต่าง ๆ ก็ทำได้ยากยิ่ง) แต่ดูเหมือนคน
ทั่วไปจะไม่เข้าใจ คิดว่าง่าย ๆ แค่รัฐบาลตั้งใจทำแล้วจะทำได้

เอาให้เข้าใจกันง่าย ๆ ทำไมป้ายทะเบียนรถเราไม่ใช้แบบสากล เป็นตัวอักษรไทยเนี่ยแหละ ทำไมยัง
ใช้ระบบที่อ่านป้ายตัวใหญ่แล้วยังไม่รู้ว่ารถมาจากจังหวัดไหน ต้องมองดูตัวเล็ก ๆ อีก นี่ยังลามไปถึง
ว่าทำไมเราไม่สร้างรถยนต์ใช้เองเหมือนมาเลเซีย คำตอบมีครับแค่ดูจำนวนรถยนต์ต่อพันคนที่ใช้ใน
ประเทศ ปรากฎว่าจำนวนรถต่อประชากรพันคนเราน้อยกว่ามาเลเซียตั้งครึ่งหนึ่ง ทำไปก็ไม่คุ้มแน่นอน

ระบบบางอันที่คนทั่วไปเข้าใจว่าทำกันได้ง่าย ๆ แต่จริง ๆ แล้วเอาเข้าจริง ๆ นั้นยากมาก ๆ ท้ายที่สุด
สิ่งที่ประเทศไทยขาดจริง ๆ ก็คือนักวิจัยทางคณิตศาสตร์ พวกนี้ต้องใช้หมดนะครับ การระบุชื่อถนน
การกำหนดเลขรหัสไปรษณีย์ จำเป็นต้องใช้นักคณิตศาสตร์มาช่วยคำนวณ รวมไปถึงการสร้างแบบ
จำลองเพื่อทดสอบต่าง ๆ สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามสร้างนักวิทยาศาสตร์พื้นฐานจำนวนมาก
ผ่านทางโครงการต่าง ๆ นั้นถูกต้องแล้วแต่เรื่องพวกนี้ต้องใช้เวลา การลงทุนเทคโนโลยีนั้นง่าย ไม่เห็น
ยากแค่ซื้อ จ้างคนดูแล มีเงินทำไมจะทำแบบดูไบไม่ได้

อย่ามัวบ่นว่า ที่นี่ประเทศไทย หรือประเทศไทยห่วย ต้องเข้าใจปัญหาด้วย ผมได้คำนวณไว้แล้วว่า
ประเทศไทยเจริญห่างจากเยอรมันเท่ากับจำนวนกุญแจที่ต่างกัน (ร้านกุญแจในเยอรมันมีกุญแจมาก
กว่าหมื่นแบบให้เลือก) แต่ใช่ว่า 100 ปีจะตามไม่ทัน ประเทศไทยยังไม่ผ่านยุคทองเลย 

Written by tsvhh

สิงหาคม 13, 2008 at 7:53 am

เขียนใน angel, สังคม

Tagged with

West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 6

with 2 comments

มาติดตามการท่องเที่ยวของเราสามพ่อแม่ลูกยังต่างแดนกันต่อ ก่อนที่สายลมแห่งกาลเวลาจะพัดเอาความ
ทรงจำเหล่านี้ให้หายไป เพราะมีเรื่องเที่ยวอีกหลายอันรออยู่  ใครยังไม่เคยอ่าน ก็อ่านตอนเก่า ๆ ได้ตาม
ลิงค์ข้างล่าง

  1. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 5
  2. West Germany – Luxemberg – Belgium Trip – ตอนที่ 4
  3. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 3
  4. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 2
  5. West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 1

เอาเป็นว่าผมของเรียกเมืองมรดกโลกแห่งนี้ว่าบรูคแล้วกัน หลังจากชมนกชมไม้ได้สักพัก เราก็เดินตามแผนที่
ไปหาจุดที่เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวตัวจริง เดินไปไม่เห็นอะไรนอกจากตึกรามบ้านช่องแบบยุโรปเก่า ๆ
และทันในนั้นก็โผล่จากตรอกมาเจอไอ้นี่

ดูด้วยตากับมองผ่านรูปภาพอาจจะผิดกันเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะสี ถึงตรงนี้พวกเราพักเติมพลังด้วยอาหาร
จานด่วน ไม่ใช่ว่าชอบแต่มันถูกที่สุดเท่าที่จะหารับประทานได้ วันที่ไปจตุรัสนี้มีงานวัดพอดี น้องนีรก็เลยได้
ทำดื้อของเล่นม้าหมุนหนึ่งรอบ หลังจากนั้นคุณลูกก็เริ่มไม่สนุกด้วยเหตุผลของข้าศึกกำลังทลวงฟันจะทะลัก
ผ่านก้นให้ได้ น้องนีรเลยต้องใช้พลังส่วนใหญ่หรือจะทั้งหมดไปต่อสู้ ด้วยอากาศหนาวแล้วความกดอากาศที่
ต่ำพร้อมให้หิมะตกลงมาได้ ผู้ใหญ่เองก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เสื้อกันหนาวแต่ไม่กันลมที่หนาซะเปล่าของผม
ดูมีค่าไม่ต่างจากเสื้อบาง ๆ เท่าไหร่นัก เราพยายามมองหาห้องน้ำแล้วลุ้นให้เจ้าตัวน้อยพ่ายแพ้ให้แก่ข้าศึก
อย่างใจจดใจจ่อ

เด็กชายวัยสามขวบ ผู้ไม่พิศมัยการเข้าห้องน้ำ ในที่สุดก็ได้พ่ายแพ้แก่ข้าศึกท่ามกลางสิ่งก่อสร้างที่สวยงาม
ผู้เป็นพ่อนั้นได้แต่มองซ้ายมองขวา มิใช้ตื่นเต้นกับความสวยงาม แต่หาห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดตูดให้ลูก
น้อย ผู้เป็นแม่ดูจะหงุดหงิดไม่ใช่น้อย หนาวก็หนาว คนก็แยะ แถมเราก็อดเกรงใจน้องแซนไม่ได้ ที่เธอมา
ลำบากกันเรา

ท่าเบ่งอึเป็นนายกฯ เมื่อไหร่จะเอาไปเผา

โชคดีที่มีห้องน้ำและที่เปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป ถึงแม้จะต้องเสียเงินหลายสิบบาท แต่คุณยายคนเฝ้าก็ใจดี
ยิ่ง

น้องแซนทำหน้ากลม ดูแผนที่ในขณะที่คอยน้องนีรปลดปล่อย

หลังจากอึเสร็จ เจ้าลูกชายของเราก็อารมณ์ดี ยอมเก็กท่าให้ถ่ายรูปอยู่เป็นนานสองนาน

สิ่งก่อสร้างข้างหลังจะเห็นได้ว่าสีซีดไปถนัดตา

เมื่อเดินชมสถานที่ต่าง ๆ จนอิ่มใจกันแล้ว เราก็เดินทางกันต่อ ระหว่างที่เดินทางนั้นก็มีบ้านเรือนสวย ๆ ให้
ชมกัน ผมเองร้องขอให้ไปหาทำเลดี ๆ ถ่ายรูปบ้านริมคลองกันหน่อย ระหว่างที่เดินทางนั้นเราก็พบกับร้าน
อาหารร้านนี้ สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1561 แนะ

บ้านคนรวยสมัยก่อนต้องสร้างด้วยอิฐนะ พวกคนจนสร้างด้วยไม้

น้องแซนได้อธิบายว่า ที่เราเห็นเป็นตัวเลขนั้นจริง ๆ แล้ววัตถุประสงค์หลักมิได้ทำไว้เพื่อบอกว่าบ้านสร้างเมื่อ
ไหร่ ถ้าเราสังเกตดี ๆ จะมีเหล็กที่ทำหน้าที่เหมือนลวดผูกติดอยู่ด้วย เหล็กที่นำหน้าที่เหมือนลวดนี้จะทำ
หน้าที่ในการยึดผนังทั้งสีด้านของบ้านเอาไว้ ถ้าเราตัดลวดที่ว่านี้ออกบ้านก็จะแบะออก น่าสนใจดี

วันที่เราไปนั้นนอกจากหนาวแล้ว หิมะก็ตกด้วย (ก่อนหิมะตก และช่วงที่หิมะตกนั้น อากาศจะแย่มาก ๆ) แม่
น้องนีรร้องบอกผมว่าให้รีบหาที่ถ่ายรูปได้แล้ว ปรากฎว่าสุดท้ายผมก็หาที่ถ่ายรูปไม่ได้ จนหิมะเปลี่ยนหน้าตา
เป็นฝนนั่นแหละ เจอคลองที่ไหนก็เลยถ่ายที่นั่นรูปก็เลยไม่ได้บ่งบอกอะไร

เส้นทางระหว่างเดินทางกลับ

เมื่อฝนตกเราก็เลยตรงรี่ไปจุดที่สามารถขึ้นรถเมล์ได้เพื่อจะได้ต่อรอเมล์ไปยังสถานีรถไฟต่อไป จากรูปข้าง
ล่างก็จะเห็นได้ว่าฝนตกหนักมาก และนี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เราทำได้แค่มองผ่านทางหน้าต่างรถเมล์

พวกเราพาตัวเองในสภาพหนาวเหน็บเรามานั่งคอยที่สถานีรถไฟ แล้วก็นั่งรถไฟกลับไปยังเมืองหลวงยุโรป
โดยมิได้แวะไหนอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ เพราะเหนื่อยกันมากแล้ว อีกอย่างเราได้นัดน้องปูปลาเจ้าของบ้างไว้
ตอนทุ่มครึ่ง  เลยตัดสินใจจะแวะเที่ยวที่ตัวเมือง Brussels ซักพักเพื่อพิสูจน์คำพูดของน้องปูปลาว่าห้า
นาทีจบจริงไหม

จุดที่เราโผล่ขึ้นมานั้นคือบริเวณนี้ เป็นห้าแยกที่มีทั้งขึ้นเขาลงเนิน ถนนก็แคบ ๆ เหมือนกันทำให้จับทิศไม่ถูก
สุดท้ายก็ต้องไปพึ่งแผนที่ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งป้ายก็ดีใจหายแนะนำให้เรากับบ้านดีกว่า เพราะมันไม่ได้บอกอะไร
เราเลย สุดท้ายก็กลับบ้านไปนอนพักเอาแรง

ตอนหน้าฟ้าใส ผมจะพาไปเที่ยวสิ่งก่อสร้างที่ถูกกันว่าใครมาเบลเยี่ยมแล้วไม่ได้มา ก็ต้องมาใหม่ และน้องนีร
ได้สัญญากับผมในตอนเช้าก่อนเที่ยวว่าไม่มีอึนอกสถานที่อีกแน่นอน เป็นอันว่าตอนนี้ก็จบลงแบบไม่มีอะไร
แค่มีให้ผ่านไปสู่ตอนจบเท่านั้นเอง

อ่านต่อตอนที่ 7

West Germany – Luxemburg – Belgium Trip – ตอนที่ 7

Written by tsvhh

สิงหาคม 9, 2008 at 1:24 am

เขียนใน เที่ยว

Tagged with , ,

คนเขียน ES 21 จอมหักมุขขั้นเทพ

leave a comment »

ใครอ่าน ES 21 ตอนล่าสุดขอให้เตรียมใจไว้กับการหักมุขขั้นเทพของคนเขียนได้เลยครับ
ที่คาดเดาว่าทีม Devil bat จะไล่ตามมาเรื่อย ๆ แบบเก่าแล้วชนะในนาทีสุดท้าย นั้นผิดไป
แล้ว ส่วนที่คาดว่าจะทำทัชดาวน์เดียวแล้วแพ้นั้นก็ไม่ใช่ เพราะที่ถูกนำมาตลอดมันคือ…

ข้อความต่อไปมีการเฉลยเนื้อเรื่อง

 

 

มันคือการวางแผน ดังนั้นแล้วแผนนั้นไม่ใช่แค่แผนเดียว แต่ 5 ทัชดาวน์ ซึ่งตอนนี้ได้มา
หนึ่งแล้วจะเสียเพิ่มอีกไม่ได้แล้วนั้น ที่เหลืออีกสี่จะทำอย่างไร ถ้าทำสองแต้มโดยไปเรื่อย ๆ
ก็น่าจะเป็นการตัดสินได้ แต่คนเขียนจะทำอย่างไรหล่ะ น่าคิด

การ์ตูนสามเรื่อง

  1. นารูโตะ นั้นเป็นการ์ตูนที่อ่านได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องคาดเดามาก เนื้อหาตลาด
  2. bleach อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ไม่เป็นไร เน้นสู้กันไปเรื่อย
  3. ES 21 เนี่ยมันสุดแล้ว ยิ่งตอนอธิบายรายละเอียดของแผนเนี่ยสุดยอด
  4. Hunter X Hunter อืม

Written by tsvhh

สิงหาคม 1, 2008 at 11:44 am