ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

Archive for พฤษภาคม 2009

ฤาจะเป็นจุดจบของกาแฟสำเร็จรูป

with 2 comments

วันก่อนไปหาซื้อกาแฟสำเร็จรูปเพื่อมาให้ภรรยาใช้ทำขนมเค้ก ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อที่ว่าชั้นวางขายกาแฟสำเร็จรูปในซุปเปอร์มาเก็ตที่เคยเต็มไปด้วยกาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อต่าง ๆ หลากหลายจนเลือกไม่ถูก ปัจจุบันนี้เหลืออยู่สองยี่ห้อ คือยี่ห้อของห้างนั้น ๆ เอง (ซึ่งมีราคาถูก) กับยี่ห้องที่ใหญ่ที่สุดดังรูปข้าง ๆ ในขณะที่ถ้ามองไปทางซ้ายหรือขวาก็จะพบสิ่งที่มาแทนที่นั่นคือ กาแฟคั่ว ทั้งแบบที่บดแล้วกับที่ยังไม่บด (แนวโน้มแบบที่ยังไม่บดดูจะเพิ่มมากขึ้น) ซึ่งก็มีทั้งยี่ห้อดัง ไม่ดัง แพง ๆ ไม่แพงอยู่เต็มชั้นไปหมด

ในเยอรมันนั้นกระแสของกาแฟสด (ใช้ตามบ้านเรา) นั้นมีมานานแล้ว ส่วนบ้านเรานั้นเริ่มแพร่หลายเมื่อมีบ้านใร่กาแฟ ทำให้คนนิยมกาแฟขมมากขึ้น (ฮา) สาเหตุที่เมื่อก่อนกาแฟพวกนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ก็เพราะเหตุผลของราคา ถึงแม้จะเป็นกาแฟฟิลเตอร์ที่สามารถทำเองตามบ้านได้ด้วยเครื่องที่ราคาไม่แพงนัก แต่ตัวกาแฟคั่วบดก็ยังแพงอยู่ดี ส่วนกาแฟแบบเอสเปรสโซนั่นไม่ต้องพูดถึง ราคาสมัยนั้นยังห่างใกล้ครัวเรือนอยู่มาก คงเป็นเพราะเครื่องทำกาแฟแบบนี้ใช้งานยุ่งยาก กาแฟที่ได้ (ทำเอง) ไม่อร่อยคุ้มกับแรงที่ลงไป ยิ่งทำเลี้ยงเพื่อนฝูง (ที่มาเป็นฝูง) ด้วยแล้ว กว่าจะทำเสร็จก็ไม่ต้องทำอะไร ราคาของเครื่องทำกาแฟพวกนี้ยังแพงมากด้วย ผู้คนจึงยังไม่นิยมดื่มกาแฟพวกนี้ซักเท่าไหร่

https://i0.wp.com/pan5.fotovista.com/dev/5/1/00926015/t_00926015.jpgยุคถัดมาของกาแฟสำหรับครัวเรือนที่สำคัญมาก ๆ ไม่รู้ว่าบ้านเรามีหรือยัง (ไม่รู้จริง ๆ) ก็คือกาแฟสดกึ่งสำเร็จรูป กล่าวคือกาแฟคั่วบดจะถูกแพ็คไว้ในตลับที่เรียกว่า “แผ็ด” เมื่อต้องการดื่มกาแฟไม่ว่าจะแบบไหน รุ่นไหน เอสเปรสโซ เอสเปรสไม่โซ ใส่นม ไม่ใส่นม ก็แค่เอาแผ็ดมาใส่เครื่องแล้วกดปุ่ม รสชาติของกาแฟจะไม่ขึ้นกับฝีมือแล้วทีนี้ แต่จะขึ้นกับยี่ห้อ  เวลาทำเลี้ยงเพื่อนก็ง่าย เครื่องเดียวทำได้หลายแบบ พอออกมาหลายรุ่นแรก ๆ ก็แพงอยู่ คนมีอันจะกินก็จะมีติดบ้าน ขายดีมาก ๆ เข้าก็ออกมาหลายแบบหลายรุ่น ถูกแพงมีให้เลือกมากมาย กว่าที่คนจะรู้ว่าราคาแผ็ดนั้นมันเป็นราคาแฝงที่แพงมาก ๆ ก็ติดกาแฟรสชาติเข้มข้นซะแล้ว  ช่วงนี้่เองที่กระแสกาแฟครีม (กาแฟที่มีฟองเยอะ ๆ) ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น กาแฟพวกนี้รสชาติจะเบากว่าเอสเปรสโซเล็กน้อย แต่ฟองกาแฟนั้นอร่อยมากขอบอก

มาถึงยุคปัจจุบันกันดูบ้าง จากกาแฟแผ็ดที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม กลุ่มผู้ขายเครื่องทำกาแฟแบบไม่แผ็ด คือใส่เม็ดกาแฟคั่วแล้วกดปุ่มเลยก็คงนิ่งเฉยไม่ได้ ต้องโหนกระแสที่คนนิยมดื่มกาแฟเข้มข้นกันมากขึ้น ก็ผลิตเครื่องทำกาแฟสดสำเร็จรูปแบบใส่เม็ดกาแฟคั่วในราคาของเครื่องทำกาแฟแผ็ดออกมาเต็มตลาด (ราคาอาจจะแพงกว่าพอสมควรแต่ไม่มากนักสำหรับรุ่นเล็กสุด) เครื่องทำกาแฟพวกนี้อาศัยโอกาสที่ว่ากาแฟคั่วนั้นถูกกว่ากาแฟแผ็ดแน่นอนแล้วหาซื้อได้ทั่วไป คนจึงให้ความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะนอกจากจะปรุงกาแฟได้ไม่ยุ่งยากนัก เม็ดกาแฟยังราคาไม่แพงอีกด้วย

ยุคนี้กาแฟแผ็ดทำท่าจะแย่ เพราะแพงกว่า แต่ก็มีการแก้เกมส์ด้วยการเพิ่มรส มีระดับความเข้มของกาแฟที่หลากหลาย และได้เปรียบตรงที่สามารถควบคุมรสชาติกาแฟได้ดีกว่า ที่ดูเหมือนจะทำตลาดได้ดีก็น่าจะเป็นของ nespresso ที่มีมากกว่า 20 รส แถมผู้ผลิตกาแฟลงมาเล่นในตลาดเองด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตเครื่องหลากยี่ห้อป้อนสู่ท้องตลาดให้อีกด้วย เป็นอันว่าตลาดนี้อยู่ตัวและรอดชีวิต ส่วนร้านกาแฟนั้นไม่ต้องพูดถึงนะครับ คนติดกาแฟเข้มข้น ร้านกาแฟรับรองแน่น กาแฟที่น่าห่วงคือกาแฟฟิลเตอร์และผู้ผลิตกาแฟคั่วบดมากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อความนิยมในกาแฟเพิ่มมากขึ้นกาแฟในตลาดนี้จึงอยู่รอดไปด้วย เนื่องจากราคากาแฟพวกนี้ถูกลงไปมาก คนดื่มกาแฟฟิลเตอร์ที่บ้านอย่างผมเลยรอดตัว มีกาแฟถูกดื่มทุกเช้าและก็รอดตัวไป

แต่ตลาดที่ไม่รอดแน่ ๆ และจะตายไปในที่สุดก็คือกาแฟสำเร็จรูป ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่รอด แถมพี่ใหญ่อย่าง nescafe ก็ดูเหมือนจะมีตลาดรองรับอยู่แล้ว ในยุโรปก็รอวันตายเท่านั้นเอง ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้คนที่คุ้นเคยกับกาแฟเข้มข้นแล้วเมื่อกลับไปดื่มกาแฟสำเร็จรูปมันจะไม่ถามอะไรกับดื่มน้ำต้ม เหตุนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของกาแฟสำเร็จรูป

Written by tsvhh

พฤษภาคม 31, 2009 at 1:14 pm

เขียนใน Uncategorized

Tagged with

รถไฟเยอรมันดีจริงหรือ

leave a comment »

ระบบรถรางในเยอรมันนั้นถือว่าเียี่ยมยอดมาก  ซึ่งถ้านับเฉพาะรถไฟระหว่างเมืองก็มีด้วยกันถึง 6 แบบ คือ ICE (InterCityExpress) ,  EC (EuroCity), IC  (InterCity),  RE (RegionExpress) , ME (Metro) และ RB (Regionalbahn)  ไล่เรียงกันตามความดีงาม  เมื่อก่อนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะรถรางกว้าง (นึกไม่ออกให้เทียบกับรางรถไฟฟ้า) วิ่งเร็วมันก็น่าจะดีกว่ารถไฟไทยอย่างเห็นได้ชัด อยู่มาัวันหนึ่งเพื่อชาวเยอรมันพูดขึ้นมาว่า “เอาอะไรมาพูด รถไฟไทยดีกว่ารถไฟเยอรมันตั้งเยอะ เทียบราคาสิ” ผมไม่เชื่อหรอกแค่ห้องน้ำกับเรื่องความตรงเวลาก็เทียบกันไม่ติดแล้ว (รถไฟชั้นหนึ่งของไทย การสายครึ่งชั่วโมงถือเป็นเรื่องปกติ แถมการปล่อยสิ่งไม่พึงประสงลงรางรถไฟนั้นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว) ยิ่งถ้าเทียบว่ารถไฟเยอรมันนั้นดีที่สุดในประเทศยุโรปด้วยกันแล้วยิ่งไม่อยากเทียบกับรถไฟไทย แต่ความจริง ก็เป็นความจริงวันยังค่ำ หลังจากถกกันวันนั้นแล้วผมกับภรรยาก็เริ่มคิดเปรียบเทียบ แล้วก็ได้เห็นสิ่งแย่ ๆ ของรถไฟเยอรมันมากมาย

ถ้าไม่ใช่ ICE ซึ่งราคาแพงสุดแล้วหล่ะก็ไม่ต้องพูดถึงความสะดวกสบายเลย ICE เป็นรถไฟระบบเดียวในเยอรมันที่ประกันความตรงเวลา คือถ้าช้ากว่ากำหนดคุณจะเริ่มสังเกตถึงสิ่งผิดปกติได้ ถ้าช้ามากระดับครื่งชั่วโมงก็มั่นใจได้ว่าจะได้รับของฟรี ส่วนรถไฟอื่น ๆ ที่นอกเหนือจาก EC (ประเทศอื่นในยุโรปไม่ตรงเวลา) แล้วในหน้าหนาวก็ถือว่าตรงเวลามาก ๆ แต่หายนะมาเยือนทันทีเมื่อถึงวันที่อากาศดี ไม่ว่าฤดูไหน ๆ ขอให้มีแดดและอากาศอุ่นเถอะ คนเยอรมันจะออกมาใช้บริการรถไฟกันมากมาย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่อากาศดี ก็ตั๋วราคาแค่ 37 ยูโร ก็ร่วมทางไปได้ 5 คน ทั่วเยอรมัน  ฤดูที่อากาศเริ่มร้อนนั้นไม่เหมาะกับการนั่งรถไฟระดับ IC ลงไปอย่างยิ่ง คนแน่น คนเยอะทำให้ขึ้นรถไฟช้า มีคนขนจักรยานขึ้นรถไฟเยอะ  วันก่อนนั่งรถไฟไปแค่หนึ่งชั่วโมง แต่เนื่องจากเพื่อนร่วมทางเยอะทำให้รถไฟช้าไปยี่สิบนาที ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาเยอะมากครับ เพราะยี่สิบนาทีที่ว่าทำให้เราพลาดรถไฟคันถัดไป และต้องนั่งตบอากาศธาตุไปสองชั่วโมงโดยไม่ได้ทำอะไร เรื่องแบบนี้ก็พอยอมกันได้ แต่ที่แย่สุด ๆ ก็คือ รถไฟแบบ RE ลงไปนั้น มีการออกแบบชั้นวางของที่วางของไม่ได้ คือใส่ของที่หน้าได้แค่ประมาณครึ่งฟุต แค่นี้จะใส่อะไรได้หล่ะครับ ผลเสียตามมาคือคนก็เอากระเป๋าวางที่ที่นั่งบ้าง ทางเดินบ้าง เมื่อมารวมกับนิสัยเห็นแก่ตัวของคนเยอรมันส่วนหนึ่ง(ประมาณครึ่งประเทศ) ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่  กล่าวคือคนเยอรมันพวกนี้จะไม่สนครับคือถ้าฉันวางของบนที่นั่งได้ แล้วมีคนยืนไม่ว่าจะเด็กพวกนี้จะไม่สนใจนะครับ ไม่หลบไม่หลีกหรือแสดงท่าทีว่าจะยกของหลีกทางให้คนอื่นนั่ง  คนที่ไม่คุ้นกับคนเยอรมันก็จะทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนดูกระเป๋านั่ง นี่ไม่ใช่เฉพาะคนไทยนะครับ คนอังกฤษก็เคยยืนบ่นมาแล้วว่าเก้าอี้พวกนี้ทำไว้ให้กระเป๋านั่ง  บางพวกหนักขนาดนั่งและวางกระเป๋าบนบันไดทีเดียว แล้วคนจะเดินกันยังไงหล่ะครับ

เมื่อเหตุการณ์มาครบองค์ อากาศร้อน รถไฟไม่มีเครื่องปรับอากาศ นิสัยแย่ ๆ ของคนเยอรมันส่วนหนึ่ง ความเหม็นของคนเยอรมันอีกส่วนหนึ่ง รถแน่น (แน่นขนาดเดินกันแทบไม่ได้)  รถไฟดีเลย์  รถไฟเยอรมันจึงดูไม่จืด  ถ้าเทียบกับรถไฟไทยแล้วผิดกัน ผมยังประทับใจไม่หายกับการได้นั่งตู้นอนของการรถไฟไทย ถึงแม้จะช้า หวานเย็น แต่ก็ไปได้เรื่อย ๆ พร้อมกับน้ำใจของคนไทย มันสบายผิดกัน

เรื่องนี้คงปิดท้ายที่ว่า ไปไหนหน้าร้อน ICE เท่านั้น

Written by tsvhh

พฤษภาคม 28, 2009 at 4:17 pm

เขียนใน ขำ

Tagged with

แมนยูฯ แพ้ บาร์ซ่า ก็สมควร

leave a comment »

ท่านเซอร์จัดตัวเอาใจนักเตะเกินไปหรือเปล่า ปาร์ค กับ กิ๊ก ลงเป็นตัวจริงตั้งแต่ต้นเกมเนี่ยผมว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตอนเปลี่ยนเอา เตเวช ลงแทนแอนเดอร์ตัน ผมว่าบ้าไปแล้ว ผมดูเกมแล้วผมว่าปาร์คตื่นสนามวิ่งไล่บอลแบบไม่มีทิศทางเท่าไหร่ เล่นกับบาร์ซ่า่เล่นแบบ 4-3-3 ผมว่าไม่เหมาะ เล่นไปเล่นมากลายเป็น 6-2-2

ถ้าเป็นผม ผมจะเอาเบิบลงตั้งแต่ต้นเกม ยังไงก็น่าจะดีกว่า  อย่างไรก็ตามการเล่นของแมนยูเมื่อคืน ผมว่าโอเคนะ ครองบอลได้พอสมควรไม่น่าเกลียดแบบปีที่แล้ว  47.3 ต่อ 52.7 เนี่ย ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ความพ่ายแพ้ผมว่าไม่ใช่ เมสซี่ นะ ไอ้แค่โหม่งลูกฟลุ๊กได้แค่นั้นทำไมถึงให้คะแนนเต็มสิบ มีจังหวะเสียฟอร์มหลายจังหวะด้วยซ้ำ ผมว่าเป็นเพราะ ปูยอย มากกว่า

ดูจากคะแนนผู้เล่นแล้ว ผมว่าบ้าไปแล้ว แมนยูฯ เล่นห่วยขนาดนั้นเหรอ ซึ่งไม่จริงเลย มีหลาย ๆ จังหวะที่แมนยูฯ สะกดบาร์ซ่าได้  สิ่งที่ท่านเซอร์ทำผิดคือเชื่อในพลังผู้เล่นหนุ่ม ๆ มากเกินไปมากกว่า  อยาลืมนะครับ บาร์ซ่าทีมนี้ถล่มบาเยินเละตุ้มเปะมาแล้ว  สิ่งที่แมนยูฯ ต้องแก้ไขคือตัววางบอลไกล ซึ่งในทีมเมื่อคืนไม่มีเลย คาร์ริค ถึงจะประคองเกมได้แต่วางบอลไกลไม่ได้ก็จบ

แต่เมื่อวานบอลสนุกนะ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 28, 2009 at 10:21 am

เขียนใน Manutd

Tagged with

dt\dt ไม่เท่ากับ 1 เสมอไป

leave a comment »

ช่วงนี้กำลังเปลี่ยนจากโลกเดิม ๆ ไปยังโลกใหม่ โลกเดิม ๆ คือโลกที่สลับข้างได้ ส่วนโลกไม่คือสลับข้างไม่ได้ (ตัวอย่างเช่นการคูณกันของเมตริกซ์) ผมได้อธิบายให้ใครต่อใครยอมรับว่า

\frac{d}{dt}t = t\frac{d}{dt} + \frac{dt}{dt}

ทุกคนตกใจ แล้วบอกว่าเป็นไปได้ไงวะ ทำไมไม่เท่ากับ 1

Written by tsvhh

พฤษภาคม 21, 2009 at 9:20 am

เขียนใน Uncategorized

Tagged with ,

ว่าด้วยเรื่องโจ๊ก ๆ

leave a comment »

เมื่อวานภรรยาทำก๊วยเตี๋ยวหมูตุ๋นให้ทาน คราวนี้ปรุงเครื่องให้เสร็จ ก่อนจะตัดพ้อว่า “ถ้าไม่ปรุงให้ก็คงทนกินแบบจืดชืด” จริง ๆ แล้วไม่ต้องทนกิน แต่ชอบกินอะไรที่มันเป็นรสดั้งเดิม ถ้าจะเล่าประวัติให้ฟังหน่อยก็คงจะพอได้ว่าผมเป็นคนไม่ค่อยปรุงรสอาหารมานานแล้ว กินอะไรที่ไหนก็กินเท่าที่มีอยู่ (ปรุงบ้างบางครั้ง) เหตุเริ่มต้นมาจากความไม่ชอบส่วนตัวกับคนที่ซื้อผลไม้กินแล้วร้องขอ พริงกับเกลือ โดยที่ไม่ได้คำถึงถึงรสชาติผลไม้  จริง ๆ แล้วการปรุงรสเพื่อให้อาหารอร่อยขึ้น นั้นนอกจากสนุกแล้วยังทำให้อาหารมีรสชาติดีขึ้นด้วย ผมเองก็มีข้อยกเว้นอยู่สำหรับอาหารสองประเภท อย่างแรกคืออาหารที่ต้องกินกับพริกดอง อย่างที่สองคือโจ๊ก  ส่วนชูซิ นั้นไม่นับเพราะวาซาบิถือเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร

ทำไมอาหารประเภทแรกต้องปรุง พวกข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมู ก็ไม่มีอะไรมาก ก็มันชอบกินพริกดอง ก็เท่านั้นเอง ส่วนประเภทที่สองที่ต้องปรุงนั้นเป็นเพราะดู ชิมไป บ่นไป สมัครพูดถึงการกินโจ๊กให้อร่อย ต้องใส่พริกน้ำส้ม พอลองกินดูก็ติดใจนับแต่นั้นมา

พูดถึงโจ๊ก อาหารประเภทนี้ถูกปากคนไทยมานานมาก เพราะกินง่าย อร่อย โจ๊กที่อร่อยทีุ่สุดที่เคยกินมาคือที่โจ๊กเมืองเลย ไปเที่ยวหน้าหนาวกับเพื่อน ๆ ไปแวะกินโจ๊กที่นั้นเป็นมื้อแรกของวันในตอนเช้าตรู่ เป็นการแกล้มการเดินเที่ยวตลาดสดเมืองเลย ตลาดสดในสายหมอก เพื่อนคนนำทริปแนะนำว่าต้องไปตลาดตอนหมอกลง ซึ่งไม่ผิดหวัง โจ๊กที่ว่านั้นมีลักษณะเป็นมูก คือต้มข้าวให้เป็นมูก ซึ่งน่าจะเป็นข้าวที่มีลักษณะเฉพาะ ส่วนเครื่องในโจ๊กนอกจากหมูบดก้อนแล้วก็ยังมีเครื่องในหมู ที่เน้น ๆ และขาดไม่ได้ก็คือกระเพาะหมู  กระเพาะหมูกับโจ๊กร้อน ๆ นั้นเข้ากันมาก เพราะกระเพราะหมูมันกุ๊บกรอบ ในขณะที่ตัวโจ๊กก็ร้อนลื่นได้ที่ ตั้งเข้าปากพร้อมกับพริกป่นโรยหน้ากินเข้าไปคล่องคอยิ่งนั่น  กินแกล้มปาท่องโก๋ชิ้นเล็ก ๆ ก็อร่อยราวกับได้ขึ้นสวรรค์ทีเดียว โจ๊กร้อน ๆ ตอนเช้าตรู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวจับใจ ยังประทับใจผมไม่รู้ลืม

แต่โจ๊กที่ผมชอบถึงแม้จะไม่ได้อร่อยเท่าโจ๊กเมืองเลย ก็คือโจ๊กที่ผมกินทุกเช้าอยู่ช่วงหนึ่ง และเป็นโจ๊กที่ผมกินกับพริกน้ำส้ม โจ๊กร้านนี้ผมกินทุกครั้งที่กลับบ้านตอนเช้าเพื่อไปอาบน้ำก่อนไปทำงานสวนทางกลับชาวบ้าน (ไม่่ต้องเดาอาชีพผมนะครับ) ไปถึงร้านก็จะเป็นลูกค้ารายแรก ๆ บางทีต้องรอโจ๊กเดือดด้วยซ้ำ โจ๊กร้านนี้มีลักษณะพิเศษคือเป็นโจ๊กที่ยังมีข้าวเป็นเม็ด ๆ ผสมอยู่ เครื่องก็ขาดไม่ได้คือมีกระเพาะหมู เวลาไปถึงร้านก็สั่ง ใส่ไข่ใส่ทุกอย่าง ซักพักก็ได้กิน โจ๊กที่ว่าเนื่องจากมีเม็ดข้าวผสมทำให้กินแล้วหนักท้องพอสมควร เวลาใส่ไข่ก็จะคาวเล็กน้อย เจ้าของร้านจะใส่เครื่องโรยหน้ามาให้สามอย่าง คือหอมผักชี (ผักชีไม่ได้ทำให้สวยอย่างเดียว แต่ทำให้กลิ่นดีอีกด้วย)  ขิงซอย และซอยปรุงรส  ไปนั่งซักพักเจ้าของร้านก็จะยกมาเสริฟพร้อมกับน้ำเย็นหนึ่งแก้ว ทุก ๆ เช้าผมก็จะทำเหมือนเดิม ตักพริกน้ำส้มค่อนช้อนโต๊ะแล้วก็คนคลุกโจ๊ก จนไข่แดงผสมกับเนื้อโจ๊กเป็นสีเหลืองนวล ปล่อยให้ไข่สุกอีกหน่อยก็เริ่มลงมือกินได้ เวลาคุณละเลียดเนื้อโจ๊กตักพอคำแล้วใส่ปาก มันจะมีเม็ดข้าวนุ่ม ๆ ให้เคี้ยวสนุกปาก เวลาเคี้ยวไปเจอพริกดอง ที่เป็นพริกขี้หนูดองซอยเป็นชิ้นเล็ก ๆ คุณก็จะได้รสเปรี้ยวปนเผ็ดอร่อยสนุกลิ้นทีเดียว ตักโจ๊กร้อน ๆ ที่ยังมีคันคุ้งหนึ่งคำสลับกับหนึ่งคำที่ปนเครื่องในหมู ซักพักก็หมดถ้วย กินตอนเช้า ๆ อร่อยอย่าบอกใคร

อิ่มแล้วก็กลับบ้านไปอาบน้ำแล้วไปทำงานต่อ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 17, 2009 at 10:21 am

เขียนใน ส่วนตัว

อยากได้หนอ

leave a comment »

Intel Core 2 Duo T7300 2x 2.0 GHz / 2048 MB DDR2 RAM / 120 GB Festplatte / 14″ TFT WXGA / CD-Brenner/DVD-ROM / WLAN 802.11abg / Bluetooth / Fingerprint / Vista Business

699 ยูโร เองพ่อคุณ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 15, 2009 at 6:40 am

เขียนใน Uncategorized

โสเภณีเนเธอร์แลนด์

leave a comment »

ขำตรงประโยคด้านล่าง “Keep hookers employed, they need to eat too.”

ประเทศนี้ครบสูตรจริง ยา, โสเภณี ขี้โ้ม้  แต่ก็ยอมรับ

Written by tsvhh

พฤษภาคม 10, 2009 at 12:55 pm

เขียนใน ขำ