ผู้ใหญ่บ้าน Hamburg

someone in Hamburg who try to be expert in something

Archive for ธันวาคม 2008

Naruto 430

with 6 comments

นารูโตะ ตอนล่าสุด 430 นั้นเป็นที่รู้กันว่าจะออกอาทิตย์หน้า ไม่ใช่อาทิตย์นี้  เนื่อเรื่องในตอนนี้ก็แปลกดี ตั้งแต่การแต่งตัวของ
นารูโตะที่ออกมาในแนวของรุ่นที่ 4 กับ จิไรยะ แต่หน้านารูโตะ ออกจะตลกไปซะหน่อย

ตอนนี้จะต้องอธิบายความซักเล็กน้อยว่า นารูโตะไม่ได้เก่งขึ้นแบบ อิจิโกะ ที่ไม่รู้ไปทำอะไรมาอยู่ดี ๆ ก็เก่งขึ้น นารูโตะนั้นได้
ฝึกแล้วฝึกอีก ส่วนเทคนิคการต่อสู้นั้นได้ฝึก หมัดกบ จนแตกฉาน ที่ใช้เวลาไม่นานเพราะนารูโตะพื้นฐานดี เพราะฝึกแล้วฝึก
อีกไม่ย่อท้อ เรื่องราวตอนนี้ก็ไม่หลุดอีกแล้วเพราะคนที่รอดได้ของโคโนฮะนั้นเกิดจากฝีมือการสละชีวิตของหัวหน้าหมู่บ้านรุ่น
ที่ 5  ส่วนโตะนั้นได้ปูพื้นไว้แล้วว่าใช้โหมดเซียนได้เก่งกว่า จิไรยะ แถมยังมีเคล็ดลับใหม่ ดังนั้นการเอาชนะเพนหกร่างคงไม่
ยาก เพราะจิไรยะเคยชนะสามรุมหนึ่งมาแล้ว ส่วนหกรุมหนึ่งก็สามารถฆ่าได้หนึ่ง การ์ตูนเรื่องนี้จะว่าไปก็หมดมุขหลายตอนเหมือนกัน

  1. พันปักษาที่พัฒนารูปแบบไปได้เรื่อย ๆ คาคาชิ ที่มีจักระน้อยมาก ๆ ในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่ค่อยได้เน้นเรื่องนี้เท่าไหร่
  2. กระสุนวงจักรที่เรียนง่ายเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่ จิไรยะ เองยังใช้ไม่เก่ง
  3. แยกเงาพันร่างรู้สึกว่าสายนารูโตะจะเป็นกันทุกคน

จะว่าไปก็แนวหนังจีน(ไม่ใช่นิยายจีน)ไปหน่อยนะเรื่องนี้ ที่แรก ๆ ตัวร้ายออกมาเก่งมาก ๆ พอสู้แพ้พระเอกไปแล้ว ตัวร้ายตัวนั้น
ก็กระจอกไปเลย อันนี้ร่วมทั้งพวกพระเอกด้วย

ภาคสองนี้เนื้อเรื่องไม่ค่อยสนุก ก็คงเป็นเพราะเป็นภาคที่น่าจะแต่งไปเรื่อย ๆ เนื้อเรื่องไม่ได้วางกรอบไว้ ตอนหลังก็อาจจะหลุด
โลกไปเลยก็ได้ ดีที่วิชาระเบิดโคโนฮะ เคยมีคนทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้วตอนระเบิดหมู่บ้านทราย (รอดไม่โดน)

Written by tsvhh

ธันวาคม 28, 2008 at 2:55 pm

เขียนใน ส่วนตัว

Tagged with ,

HP Touchsmart PC

leave a comment »

วันนี้ไปเดินเล่น MediaMarkt ซึ่งไปได้ลงไปดูนานแล้ว วันนี้ต้องซื้อแบตเตอรีให้ลูกก็เลยแวะไปซะหน่อย ถือว่าคุ้มหล่ะเพราะ
ได้เห็นเจ้านี่ HP Touchsmart วางไว้คู่กับคอมพิวเตอร์จำพวกมีแต่จอ ซึ่งมีอยู่หลายยี่ห้อทีเดียว

ScreenHunter_02 Dec. 23 18.05

แรก ๆ ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะ imac ก็มีมาตั้งนานนมแล้ว นี่ค่ายพีซีพึ่งจะตื่นทำ ปรากฎว่ามันเป็น Touch Screen ครับ
พอคนว่างก็เลยเข้าไปเล่นดูซะหน่อย โอมันใช้งานได้ดีทีเดียว สิ่งที่รองก็กด Start ตามปกติ (บน Vista) เลื่อนหน้าต่างไปมา
ซึ่งการตอบสนองดีมาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่า CPU จะเป็นแบบทั่วไป ที่สำคัญคือราคาปกติไม่ได้แพงอะไร ตัวที่ไปลองเล่นดูนั้น
ราคาเพียง 1499 ยูโร ราคาเท่ากับ Notebook ระดับไฮเอนด์เท่านั้นเอง แต่นี่จอ 22 นิ้ว Touch Screen นะครับ (ไม่ใช่
Multitouch) ราคาขนาดนี้ถือว่าถูกมาก ๆ

การทดสอบต่อมาก็เป็นการลอง Notepad ปรากฎว่ามีคีย์บอร์ดมาให้ด้วยที่หน้าจอ นี่ถ้าปรับจอเอียง ๆ ก็พิมพ์ลงบนจอไป
ได้เลย ที่ลืมทดสอบคือ copy & paste ซึ่งคิดว่าทำได้โดยการกดนิ้วแช่ ๆ นั่นแหละ ไม่น่าพลาด ทั้งหลายทั้งปวดคิดว่าคุ้ม
กับราคาแค่นี้ ด้วยขนาดที่เล็ก แบกไปไหนมาไหนในระยะใกล้ ๆ ได้ คิดว่าเหมาะมากกับคอมพิวเตอร์สำนักงาน ประหยัดเนื้อ
ที่มาก ๆ เป็นอันว่า imac, PC แบบเดียวกัน และ Notebook ที่ใช้แทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยตั้งโจทย์ในราคาที่ต่ำซะ
แล้ว เพราะว่าหนึ่งมันไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด, เมาส์ และน้ำหนักไม่ได้ต่างกัน เครื่องตั้งต้นเครื่องต่อไปของผมอาจจะเป็นเครื่อง
นี้ก็ได้

Written by tsvhh

ธันวาคม 23, 2008 at 6:26 pm

เขียนใน ส่วนตัว, technology

Tagged with

เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 6 เหนื่อยจนหลับ

with 2 comments

อ่านตอนเก่า ๆ ได้ที่

  1. เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 1 เหนื่อยมากขอบอก
  2. เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 2 ครึ่งวันแรก
  3. เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 3 เที่ยววันแรก
  4. เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 4 ปราสาทปราก
  5. เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คือ – ตอนที่ 5 ปราสาทปราก 2

เอาหล่ะได้ฤกษ์เขียนต่อกันซะที ก็คงมีอีกซักสามตอนหล่ะครับ เมื่อวานหลังจากกลับเข้าที่พัก ก็ปรากฎว่ามีสองสาวน้อยชาว
สเปน (รู้ได้เพราะทักลูกชายด้วยคำว่า โอลา) แทนที่คนพ่อจะได้ไปทำเจ้าชู้ใส่เปล่าหรอก เจ้าหมานีรตรงดิ่งไปเข้าห้องสาว
โดยมิได้บอกกล่าว จีบสาวได้ซักพักก็กลับมานอน พอตื่นเช้าเท่านั้นแหละโวยวายโรงแรมแทบแตก เพราะสองสาวเจ้าออก
ไปเที่ยวแล้วตั้งแต่เจ้า เจ้าหมานีรกว่าจะตื่นก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมง กว่าจะปลอบได้เล่นเอาเหนื่อยใจ

เช้านี้อากาศไม่ค่อยดีนัก ทำให้เราสรุปจะไปเที่ยวยังที่ ๆ ไม่เปียก และที่นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ผมไม่ได้คาดหวังอะไร
กับที่นี่มากนัก เพราะว่าเคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ ทั้งที่ ปารีส และ ลอนดอน มาแล้ว ดังนั้นก็ไม่คิดว่าที่นี่จะมีอะไรให้ดู
หลังจากนั่งรถรางมายัง National Museum แล้ว ก็ข้ามถนนไปโผล่ด้านเข้าเดินเข้าพิพิธภัณฑ์ เอาปรากการ์ดแลกบัตรเข้า
แล้วก็จ่าย 50 โคลนเชค สำหรับเป็นบัตรเบ่งในการถ่ายรูป ภายในห้องโถงของพิพิธภัณฑ์นั้นสวยงามาก จนคุณภรรยาไม่
อยากจะไปไหนต่อเลย

สิ่งหนึ่งที่ผมคิดตลอดเวลาก็คือประเทศนี้ทำอะไรกิน และคำตอบหนึ่งก็ชัดเจนในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ กล่าวคือประเทศนี้นั้น
เต็มไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย (คำตอบอื่น ๆ นั้นไม่รู้) ดังรูปที่ถ่ายมาให้ดู ซึ่งถ้าจะถ่ายมาให้หมดก็จะมีเป็นพัน ๆ รูป
ทีเดียว จุดนี่เองที่ปรากได้สร้างพิพิธภัณฑ์ให้มีความแตกต่างจากที่อื่น ที่นี้มีแร่ธาตุต่าง ๆ จัดโชว์ไว้เต็มชั้นทีเดียว

พอเดินออกจากห้องเหมืองแร่ ก็ให้เจ้าตัวน้อยได้ถ่ายรูปบ้างและก็ไปต่อกันที่ห้องสวนสัตว์ อันนี้กระโหลกของช้างแมมมอธ

ชั้นนี้จะมีโครงกระดูกและซากสัตว์ให้ดูเต็มไปหมด แม้แต่งูยักษ์อย่างอนาคอนดา ก็มีให้ดูด้วย

ในส่วนนี้นั้นมีโครงกระดูกของทั้งสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก รวมถึงมนุษย์ด้วย โครงกระดูกที่ใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็น
โครงกระดูกปลาวาฬที่ใช้พื้นที่เกือบทั้งหมดของเพดานในส่วนนั้น พอมองขึ้นไปก็จะรู้สึกเหมือนอยู่ในท้องปลาวาฬจริง ๆ

นอกจากภายในที่มีสิ่งที่น่าสนใจให้ดูมากมายแล้ว วิวภายนอกก็ยังสวยไม่แพ้กัน รูปที่เห็นคือ Wenceslas square ซึ่งเป็นจุด
หนึ่งที่น่าลงไปเดินเล่น

พอดูในพิพิธภัณฑ์จนทั่วซึ่งยกเว้นไว้ในส่วนร่วมสมัย ซึ่งมีการแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวสงคราม ตรงจุดนี้พวกเราขอไม่ดูสมัครใจ
ออกมาดูด้านนอกของพิพิธภัณฑ์ดีกว่า ที่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์นั้นยังมีเรื่องราวแสดงความเกลียดชังสหภาพโซเวียดเดิมอยู่เต็ม
ไปหมด นอกจากนั้นยังมีการไว้อาลัยผู้ที่เสียชีวิตจากการเข้ายึดครองปรากของสหภาพโซเวียดอีกด้วย  โดยมีการตั้งรถถังจริง ๆ
ไว้ให้ดูต่างหน้าเลยทีเดียว

เราลงมาถ่ายรูปที่จัตุรัสได้ไม่นาน ฝนก็ตก ก็เลยย้ายไปที่ State Opera แต่ก็ต้องตากฝนกันซก ๆ เลย ดีที่เป็นฝนยุโรปคือ
ไม่หนาเม็ด ตกพอให้รำคาญ ก็เลยเดินเที่ยวรอบพิพิธภัณฑ์นั่นแหละ แล้วก็ไปไหมไม่ได้ คิดไม่ออก สุดท้ายก็กลับไปที่
Old town square โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ Prague Card ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเยอะได้  จะเรียกว่าเก็บตกก็ได้

ว่าแล้วก็เริ่มที่ Church of St Nicholas ปรากฎว่าปิดเข้าไม่ได้ ก็ไปหาที่ไปต่อ ก็ไปไม่ไกลหรอกครับไปที่หอนาฬิกา
นั่นแหละ ที่นี่มีหอที่เรียกว่า Old Town Hall Tower เป็นจุดทีมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และก็มีห้องน้ำด้วย เด็กฟรี
ส่วนผู้ใหญ่ก็ 20 โคลน ใน Tower นี้แต่ละชั้นก็จะมีห้องแสดงต่าง ๆ มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้น่าสนใจอะไร เราก็
เลยขึ้นไปข้างบนเลย ไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่เพราะมีลิฟท์บริการ ข้างบนก็จะมีการแสดงประวัติของบริเวณนี้ในยุคต่าง ๆ
ว่าตอนที่ไม่ถูกใครปกครองเลย เป็นอย่างไร ตอนที่ถูกนาซียึดเป็นอย่างไร ตอนนี้โดนโซเวียดยึดเป็นอย่างไร ข้างบน
ก็มีที่ให้ถ่ายรูปจัตุรัสกลางเมืองที่มองจากวิวสูงแล้วสวยมาก

การขึ้นไปข้างบน Tower นั้นจะลำบากนิดหน่อย ขึ้นไปก็จะไปเจอคนดูแลที่หน้าตาบอกบุญไม่รับอยู่คนหนึ่ง ซึ่งผิดกับ
คนดูแลข้างล่างมากมาย มีอยู่จังหวะหนึ่งเจ้านีรปวดฉี่ขึ้นมากระทันหัน คนดูแลก็เดินตามประกบกลัวเราเอาลูกฉี่ข้างบน
ผมก็เลยต้องอุ้มลูกลงมาข้างล่าง เล่นเอาเหนื่อยหอบทีเดียว กว่าจะกลับขึ้นไปได้ก็หมดไปหลายนาที แต่คณยายผู้ดู
แลด้านล่างใจดีมาก บอกว่าจำหน้าได้ไม่เป็นไรเข้าไปใหม่ได้ หลังจากลงมาข้างล่างแล้ว ก็เป็นเวลาบ่ายแก่ ๆ แล้ว เรา
ต้องมาคำนวณเวลากันดูว่าจะไปไหนต่อ ปรึกษากันนานทีเดียวกว่าจะไปลงเอยที่ Observation Tower โดยรอบก็จะ
มีสวนสนุกที่เป็นเขาวงกตสำหรับเด็ก ทางขึ้นเขาก็จะได้ขึ้นรถกระเช้าด้วย (ผมชอบรถกระเช้ามากนะ ขึ้นทีไรก็ตื่นเต้น
ทุกที) เราไปลงที่สถานี Ujezd แล้วก็ขึ้นรถกระเช้าไปขึ้นเขา

พ่อก็ตื่นเต้นลูกก็ตื่นเต้น (จริง ๆ ก็นั่งในเยอรมันมาแล้วรอบหนึ่งที่ไฮเลแบรก) พอไปถึงข้างบนก็จะเป็นสวนสาธารณะ
เรารีบตรงรี่ไปยังเขาวงกต ปรากฎว่าปิด ไม่มีทางเลือกเลยต้องขึ้น Observation Tower ที่มีอายุกว่าร้อยปีแล้ว

ตัวหอแบ่งเป็นสองชั้น ต้องเดินขึ้นไปไม่มีลิฟท์ช่วย (เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่ายังหนุ่มยังแน่น เราเถียงว่าเรามีเด็ก เขาก็บอก
ว่าเด็กจะวิ่งนำคุณนะสิ) การเดินขึ้นไปบนหอสูงไปยังชั้นแรกค่อยข้างจะสบาย เจ้าตัวเล็กเดินนำขึ้นไปจริง ๆ พอไปถึงชั้น
แรกแล้ว ก็รู้สึกคุ้มค่าเหนื่อยจริง ๆ ครับ เพราะเราได้ถ่ายรูปปราสาทปรากในมุมสูงที่ไม่สามารถจะมองเห็นจากที่อื่นได้

เมืองหลังคาสีส้มแห่งนี้ก็สวยขึ้นมากทีเดียว ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็สวย เรียกว่าคุ้มค่าเหนื่อย เราตัดสินใจ (ทำใจ) ว่าจะขึ้น
จะขึ้นไปต่ออีกชั้น ซึ่งชัดถัดไปนั้นทั้งสูงทั้งเสียว เพื่อนร่วมทางก็น้อย ต้องไม่ลืมนะครับว่าหอนี้มันตั้งอยู่บนภูเขาดังนั้นมันจะ
สูงกว่าหอที่ตั้งอยู่บนพื้นราบ พอขึ้นไปได้หน่อยเดียวก็พากันลงเพราะวิวไม่ได้สวยกว่าชั้นหนึ่ง(มันไกล) อีกอย่างมันหนาว ไอ้
ขาลงเนี่ยจริง ๆ มันน่าจะสบายกว่าขาขึ้น กลายเป็นว่าเจ้าตัวเล็กเดินลงได้หน่อยเดียวก็เลิกลงซะงั้น คนเป็นพ่อจะปล่อยให้ลูก
เมื่อยก็คงใช่ที่ก็เลยต้องอุ้มจากชั้นหนึ่งลงมา กว่าจะถึงชั้นล่างก็เหนื่อยหอบ ต้องขอตัวคุณภรรยาแวะเข้าห้องน้ำเลยทีเดียว

พอพักผ่อนกันเรียบร้อยเราก็ย้อนกลับไปที่สวน นั่งพักกินอาหารเย็นที่เตรียมมาด้วยนิดหน่อย แล้วก็วางแผนเดินทางต่อ ซึ่ง
ไปได้ทางเดียวก็คือนั่งรถกระเช้ากลับไปยังสถานีเดิม ระหว่างรอรถก็ยังมีหอดูดาวให้ดูด้วยนะครับ ถ้าชอบก็ไปขอเขาดูได้ แต่
ตอนนั้นเขาปิดแล้ว

พอลงมาข้างล่างทุกอย่างก็มืดแล้ว รูปถ่ายถนนข้างบนนั้นคือถนนส่วนใหญ่ในปรากซึ่งสวยดีครับ แต่พอเดินมาก ๆ แล้วเมื่อย
เท้าดีพิลึก  ตอนนี้การเดินทางของเราในวันนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่เปล่าในเมื่อคุณลูกยังหลับคุณพ่อคุณแม่ก็ยังคงต้อง
การเที่ยวต่อ จะด้วยความงกหรืออะไรก็แล้วแต่ เราจึงตรงไปยัง Charles Bridge เพื่อที่จะได้ชื่นชมความงามของสะพานใน
ยามค่ำคืน แต่เปล่าแทนที่จะไปแค่สะพาน พวกเรายังไปขึ้น Old Town Bridge Tower กันอีก ดีที่ไม่สูงมาก

ไอ้ Tower แห่งนี้ มองจากข้างล่างก็สวยดีนะครับ แต่พอขึ้นไปขางบนก็ทั้งเล็กทั้งแคบและมืดมิด ยังดีที่ได้รูปถ่ายสวย ๆ ติดไม้
ติดมือกลับมาบ้าง พอลงจาก Tower พวกเราก็เดินเล่นกันต่อที่สะพาน ตัวสะพานยามนี้สวยงามมาก โดยเฉพาะแสงไฟและ
สายลมยามย่ำค่ำเคล้ากับเสียงดนตรีที่ขับกล่อมจากศิลปินข้างถนนที่หาเลี้ยงชีวิตด้วยเศษเงินจากผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาบน
สะพาน ทำให้การเดินผ่านสะพานรอบนี้ของเรานั้นสดชื่นมีชีวิตชีวาลืมความเหน็ดเหนื่อยที่พึ่งผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสิ้นสุดที่
ปลายสะพานอีกด้านหนึ่ง เราก็มีแรงที่จะกลับที่พักต่อไป อย่างไรก็ตามเราก็ยังพาความเหนื่อยหล้าไปเยี่ยมน้องชายอีกครั้ง

พอถึงโรงแรมน้องชาย เจ้าตัวเล็กก็ขอตัวนอนด้วยเวลาเพียงสามทุ่มเท่านั้น ตอนที่เจ้าตัวน้อยหลับใหม่ ๆ เรายังกลัวว่าเดี๋ยวก็ตื่น
ปรากฎว่าหลับยาวไปถึงเช้าเลย และนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันอย่างดีว่าวันนี้เหนื่อยจริง ๆ ยังไม่จบนะครับ พรุ่งนี้เที่ยวต่อ

อ่านตอนถัดไปได้ที่
เที่ยว ปราก Prague กับเจ้าตัวน้อย 5 วัน 4 คืน – ตอนที่ 7 เที่ยวเก็บตก

Written by tsvhh

ธันวาคม 20, 2008 at 10:08 pm

เขียนใน เที่ยว

Tagged with ,

Poor Guy in Cancun

leave a comment »

พอผ่านพ้นการนำเสนอผลงานอันน่าเครียดไปแล้ว ผมก็มีเวลามารายงานความเป็นไปของชีวิตได้แล้ว
จริง ๆ แล้วผมค่อนข้างห่วย ถ้าเทียบกับระดับนักเรียนปริญญา้เอกทั่ว ๆ ไป แต่เผอิญผลงานเข้าตาคน
ตรวจเปเปอร์ ทำให้ได้เข้าร่วมประชุมทางวิชาการที่รู้จักกันดีในแวดวงคนระบบควบคุมซึ่งก็คือ
CDC 2008 และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมประชุมวิชาการเฉพาะทางแบบนี้ เดินไปทางไหนก็เจอคน
ที่พูดคุยกันในเรื่องเดียวกัน แถมหน้าตาคุ้น ๆ ยิ่งดูชื่อใน Proceedings ยิ่งเดินตัวลีบ

CDC 2008 นั้นตอบปฏิเสธเปเปอร์ไป 50% ในขณะที่เปเปอร์ที่ได้ตอบรับนั้นได้ผ่านการตรวจสอบ
ถึงสองขั้นตอน กล่าวคือจากกรรมการภายนอก แล้วยังผ่านกรรมการภายในอีก ดังนั้นการได้รับการ
ตีพิมพ์นั้นไม่ใช่ง่ายเลย ความรู้สึกแรกที่ได้เหยียบย่างเข้ามาประชุมวิชาการแบบนี้ก็คือรู้สึกกลัว
เพราะว่าตอนไปประชุมวิชาการอื่น ๆ ถึงแม้จะเจาะจงว่าระบบควบคุมก็ตาม จะเจอคนดังแค่คนหรือสอง
คนเท่านั้น ในขณะที่ที่นี่คุณจะเจอคนที่คุณเคยผ่านตา ดังบ้างไม่ดังบ้างหรือกำลังจะดังทุก ๆ ห้าก้าว
นั่นเป็นที่มาที่ทำให้ผมเครียดมาก ๆ (แม้แต่โปรฯ ที่ต้องไปนำเสนองานให้ลูกศิษย์ก็ยังเครียด เพราะว่า
ต้องไปนำเสนอในเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัด และปรากฎว่าในถ้ำนั้นล้วนแต่เป็นเสือ สิงห์ กระทิง แรด ใน
สาขา ใคร ๆ ก็ไม่อยากโชว์โง่กันทั้งนั้น) ผมได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้คนโน้น คนนั้นเข้ามาฟังผมเลย
ด้วยหลายเหตุผล แค่ session chair (คนหนึ่งเคยเขียนอีเมล์ไปขอเปเปอร์ อีกคนหนึ่งเคยรู้จัก) ก็
เครียดพอแล้ว  ปรากกฎว่า Jakop Stoustrup ที่เคยคิดว่าน่ากลัวกลับกลายเป็นคนน่ารัก น่าคบมาก
สิ่งที่ผิดคลาดคือ van den Hof ตั้งใจจะมาฟังผมพูดด้วย ผมพูดได้ไม่ดีนักเพราะว่าภาษาห่วย และ
ตอบคำุถามไม่ดีเพราะฟังไม่เข้าใจ เพราะฟังคนถามไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็แค่หนึ่งในสามเท่านั้นที่ไม่
รู้เรื่อง

มาเที่ยวนี้คุ้มมากเพราะได้เจอคนดังครบ ขาดอยู่คนเดียวคือ Boyd ไม่รู้ว่าทำไมไม่มา ที่ถ้าเป็น
ดาราก็ขอลายเซ็นต์กันมือหักไปแล้ว

ประสบการณ์อีกเรื่องหนึ่งที่น่าจดจำก็คือ การนำเสนอส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจคนฟังเท่าไหร่นัก พยายาม
ยัดอะไรมาเยอะแยะไปหมด ทำให้คนที่ไม่ได้ลงลึกในสาขานั้นจริง ๆ ก็จะไม่ค่อยได้อะไร สาขาที่ผม
ต้องนำเสนอผลงานนั้นเป็นสาขาการหาเอกลักษณ์ของระบบเพื่อการออกแบบระบบควบคุม สาขานี้ค่อย
ข้างโหดเพราะหน้าเดิม ๆ ทั้งนั้น และแต่ละคนก็เซียนเล่นเอาเครียดเลย แต่ก็ผ่านมาได้  ก็ถือว่าเป็น
การเติมเต็มชีวิตการเรียนของผม คราวหน้าผมก็คงไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรมากแล้ว

Written by tsvhh

ธันวาคม 11, 2008 at 12:18 am

เขียนใน การศึกษา

Tagged with