ภาพยนตร์เรื่องแสงศตวรรษ เกาไม่ถูกที่
หลายคนคงรู้แล้วนะครับว่ามีภาพยนตร์เรื่องที่ได้รับรางวัลจากฝรั่งเศส โดนหั่นฉากที่ไม่มีอะไรเลย
ไปสี่ฉาก หลายคนบอกว่าถ้าเป็นหนังของค่ายใหญ่หรือเป็นหนังตลกก็คงไม่โดน อันนี้ผมว่าไม่ใช่
ทั้งนี้เนื่องจากกรรมการมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียน และมีจากหลากหลายอาชีพ ซึ่งอาจจะเป็นคนรุ่น
ใหม่ด้วยซ้ำ
ทำไมเรายังต้องดูหนังที่มีการเซ็นเซอร์ทั้ง ๆ ที่เราคิดเองเป็น ทั้งนี้เพราะว่าเรามีกองเซ็นเซอร์แทน
ที่เราจะมีหน่วยงานจัดระดับของหนัง ว่าเด็กขนาดไหนควรห้ามดู เหตุผลของการไม่จัดระดับของ
หนังนั้นชัดเจนเมื่อยี่สิบปีที่แล้วคือเรื่องของหนังกลางแปลง ถ้าจัดระดับเมื่อไหร่หนังพวกนี้ก็จบไป
แทนที่จะมาพูดเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราว หรือมีการเรียกร้องให้มีการจัดระดับหนัง รวมไปถึงเด็ก
ที่อายุไม่เกิน 18 ปี ไม่ควรจะนอนดึกเกินสี่ทุ่มหรือไม่ (หมาอ้วนวันไหนนอนก่อนเที่ยงคืน พ่อแม่
จะเลี้ยงฉลอง) เรื่องพวกนี้ควรจะมีการพูดกันให้เป็นเรื่องเป็นราว
ฉากหมอกินเหล้าก่อนออกรายการทีวี–กินเหล้าย้อมใจ–ที่จะโดนตัด ถ้าตัดตรงนี้ไป
แล้วหนังในส่วนนี้จะนำเสนออะไรเล่า
ถ้าผมเป็นกรรมการเซ็นเซอร์ แล้วส่งหนังเรื่องไหนมาก็ผ่านหมดไม่ตัดเลย ผมก็ขอลาออกจากการ
เป็นกรรมการดีกว่า เพราะไม่รู้จะไปทำอะไร พูดแค่นี้เห็นปัญหาไหมครับ ครับปัญหาอยู่ที่เมื่อมอบ
หน้าที่ไปแล้วคนที่ได้รับมอบหมายก็ต้องทำหน้าที่ จะดีจะเลวก็หน้าที่เขา ความเห็นของเขาและก็
ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำ (ยังดีกว่าศาลหลายเท่านัก) พูดให้ชัดคือหน้าที่คือหน้าที่ ขอบเขต
ของหน้าที่มีแค่ไหนก็ทำไปตามสิ่งที่ตัวเองเห็น
เรื่องอย่างนี้จะไม่เกิดเลยครับ เช่นเรื่องประท้วงการเซ็นเซอร์หนัง ก็เปลี่ยนเป็นจัดระดับหนังแทน
ห้ามตัดต่อปัญหาจบไหมครับ จบเลย (นี่รวมไปถึงหนังตัวอย่างด้วยนะ) คือถ้าคนทำหนังอยากได้
ระดับหนังที่เป็นวงกว้างกว่า ก็ส่งกลับให้ไปตัดต่อใหม่ โดยแนะนำด้วยว่าฉากไหนที่เป็นปัญหา โดย
ยืนอยู่บนหลักการที่ว่าคนที่เลือกตั้งได้ย่อมต้องตัดสินใจพิจารณาผิดชั่วด้วยตัวเองได้ระดับ
หนึ่ง นอกจากนั้นปัญหาที่ว่าเด็กเล็กไปดูหนังที่ไม่สมควรดูมันก็จะไม่มี กองจัดระดับหนังก็มีหน้าที่
ไปตรวจสอบโรงหนัง ให้ดาวอะไรก็ว่าไป
นี่รวมไปถึงปัญหาของกระทรวง ICT ด้วยนะครับ เรื่องการบล็อกเว็บเป็นหน้าที่เขา ถ้าตัดหน้าที่เขา
ตรงนี้ได้ก็จบ หรือจะกำหนดในรัฐธรรมนูญไปว่าจะปิดกันสื่อได้ก็ต่อเมื่อมีการลงรายชื่อเกินห้าหมื่น
ชื่อก็ว่ากันไป
แทนที่จะไปตีโพยตีพายเรียกร้องให้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ก็ดูกันก่อนสิว่าต้นเหตุมันอยู่ตรงไหน
เราจะได้เลิกพูดกันซักทีว่า ทำไมเขาทำอย่างนี้ ทำไมเขาใช้อำนาจในทางที่ผิด ฯลฯ เพราะตราบ
ใดที่ต้นตอยังอยู่ ต้นไม้มันก็ยังออกดอกออกผลได้อยู่ดี จะช้าจะเร็วก็อีกเรื่อง
อยากดูเรื่องนี้จัง อย่างน้อยคนไทยน่าจะมีโอกาสได้ดูว่าหนังที่ดีและได้รางวัลโดยฝีมือคนไทยเป็นยังไง
ในเมื่อไม่สามารถหาความลงตัวของผูผลิตหนังและคณะกรรมการเซ็นเซอร์ได้ ก็ดูเหมือนว่า เราอาจจะไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วหรือเปล่า
Ruttanun
เมษายน 20, 2007 at 3:39 pm